สธ.เผยน้ำท่วม "พัทลุง-นราธิวาส" เริ่มลดลง ไม่มีคนเจ็บและเสียชีวิต หน่วยบริการรับผลกระทบ 2 แห่ง ปิด รพ.สต. 1 แห่งที่พัทลุง สั่งติดตามสถานการณ์ ส่งทีมแพทย์ดูแลช่วยเหลือประชาชน เฝ้าระวังโรค หลังพบบางหมู่บ้านเส้นทางถูกตัดขาด
เมื่อวันที่ 26 ม.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันจากเหตุฝนตกหนักในพื้นที่ จ.พัทลุง ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กำชับให้ สธ.ติดตามดูแลช่วยเหลือประชาชนด้านสุขภาพในพื้นที่ ซึ่งจากรายงานของกองสาธารณสุขฉุกเฉิน สำนักงานปลัด สธ. กรณีสถานการณ์วาตภัย อุทกภัย และดินโคลนถล่ม วันที่ 24-26 ม.ค. 2567 พบว่า มีสถานการณ์ใน 2 จังหวัด คือ นราธิวาส และพัทลุง โดยขณะนี้ระดับน้ำลดลงทั้ง 2 จังหวัด ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ขณะที่สถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบสะสม 2 แห่ง คือ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ 1 แห่ง ในนราธิวาส แต่ยังเปิดให้บริการได้ตามปกติ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 1 แห่งในพัทลุง คือ รพ.สต.บ้านชะรัด สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งต้องปิดให้บริการ และได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไปรับบริการจากสถานพยาบาลใกล้เคียงแทน
นพ.ชลน่านกล่าวว่า ทั้ง 2 จังหวัดได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีเหตุอุทกภัยแล้ว โดยในส่วนของ จ.พัทลุง พบว่า มวลน้ำที่ไหลหลากอย่างรุนแรงกระทบต่อเส้นทางคมนาคม ทำให้คอสะพานเชื่อมระหว่างหมู่ที่ 2 กับหมู่ที่ 4 ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา ขาดเสียหาย ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวยังไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ รวมถึงหลายตำบลถนนทางเข้าหมู่บ้านบางหมู่บ้าน รถยนต์ขนาดเล็กและรถจักรยานยนต์ไม่สามารถผ่านได้ โดยการดำเนินงานช่วยเหลือประชาชนด้านสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานและหน่วยบริการ แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์สภาวะอากาศ และประสานการปฏิบัติงานกับหน่วยงานเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมแจ้งเตือนทุกอำเภอเตรียมความพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน
"ขณะนี้ได้มีการแจ้งเตือนพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขังในระยะสั้น ที่ อ.เบตง จ.ยะลา อ.สุไหงโก-ลก และ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง คือ อ.กงหรา อ.ตะโหมด อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง และ อ.ระแงะ อ.แว้ง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส นอกจากนี้ ยังได้เตรียมพร้อมทีมแพทย์ บุคลากร ยา และเวชภัณฑ์ เพื่อออกดูแลสุขภาพประชาชนและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ให้ได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำท่วมแล้ว" นพ.ชลน่านกล่าว
