xs
xsm
sm
md
lg

กรมวิทย์จับมือ JICA นำ "จีโนมิกส์-ภูมิคุ้มกัน" ใช้ค้นหา รักษา ควบคุม ป้องกัน "วัณโรค" หวังลดป่วยตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมวิทย์ฯ จับมือ JICA นำนวัตกรรม "จีโนมิกส์-ภูมิคุ้มกัน" ใช้ค้นหา รักษา ควบคุม ป้องกัน "วํณโรค" ในไทย คาดช่วยลดป่วย ลดตาย บรรลุเป้าหมายยุติวัณโรคภายในปี 2578

เมื่อวันที่ 24 ม.ค. นพ.พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า วัณโรค เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจที่ยังปัญหาสาธารณสุขสำคัญทั่วโลกและไทย โดยประชากรโลก 1 ใน 3 มีการติดเชื้อวัณโรค องค์การอนามัยโลกให้ประเทศไทยติดอันดับ 30 ประเทศที่มีปัญหาวัณโรคสูงของโลก โดยมีอุบัติการณ์วัณโรครายใหม่ที่เกิดขึ้นประมาณ 103,000 ราย เสียชีวิตกว่า 12,000 รายต่อปี ทั้งนี้ สหประชาชาติและองค์การอนามัยโลก กำหนดให้วัณโรคเป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) จึงมีการประกาศยุทธศาสตร์ยุติวัณโรคภายในปี 2578 เพื่อลดอัตราการป่วยวัณโรครายใหม่ มี 3 เสาหลัก ได้แก่ 1.ดูแล รักษา ป้องกันวัณโรค แบบองค์รวม โดยมีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง 2.เสริมสร้างความเข้มแข็งเชิงนโยบายและระบบสนับสนุน และ 3.เพิ่มความแข็งแกร่งด้านงานวิจัยและนวัตกรรม


นพ.พิเชฐ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์วัณโรคในไทยยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของ SDGs ได้ ทำให้ต้องมีนโยบาย เพื่อเร่งรัดการยุติวัณโรคโดยปรับแนวทางการควบคุมวัณโรค จากเดิมที่เน้นตั้งรับ มุ่งรักษาผู้ที่มีอาการของวัณโรคมารับการรักษาที่ รพ. เปลี่ยนเป็นการค้นหาผู้ป่วยวัณโรคในกลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ต้องขังในเรือนจำ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง กลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้สัมผัสโรค โดยเฉพาะเด็กเล็กที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อวัณโรค เนื่องจากมักพบการติดเชื้อได้บ่อยในครอบครัวของผู้ป่วยวัณโรค เพื่อค้นหาและรักษาให้เร็วที่สุด ปรับแนวทางการวินิจฉัยโรค โดยใช้วิธีที่มีความไวสูงคัดกรอง คือ ถ่ายภาพรังสีทรวงอก ร่วมกับตรวจหาเชื้อวัณโรค ด้วยการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อ รวมถึงค้นหาและรักษาผู้ป่วยวัณโรคแฝง เพื่อป้องกันการเกิดวัณโรค

ที่ผ่านมา ปี 2558 - 2562 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมมือกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ดำเนินโครงการ Science and Technology Research Partnership for Sustainable Development (SATREPS) จนเกิดผลสำเร็จ ได้ผลผลิตเป็นเทคโนโลยีและนวัตกรรม องค์ความรู้ใหม่ ที่จะนำไปใช้สนับสนุนยุทธศาสตร์ยุติวัณโรคของชาติ เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในระบบการวินิจฉัย การพยากรณ์ความเสี่ยงต่อการเป็นวัณโรค และการควบคุมวัณโรค 4 เรื่อง ได้แก่ 1.การถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของเชื้อวัณโรค ด้วยเทคนิค NGS 2.การวัดระดับยาและการตรวจยีน NAT2 ในผู้ป่วยวัณโรค เพื่อเป็นแนวทางปรับยาต้านวัณโรค Isoniazid 3.การตรวจวัดระดับการแสดงออกของยีนในเลือด เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นวัณโรค ด้วยเทคนิคดิจิทัลพีซีอาร์ และ 4.การตรวจหาการติดเชื้อวัณโรค ด้วยเทคนิค IGRA


“JICA ขยายผลความร่วมมือ โดยร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ภายใต้โครงการ TCP/ASIST เพื่อนำนวัตกรรมและองค์ความรู้จากโครงการ SATREPS โดยเฉพาะด้านจีโนมิกส์และภูมิคุ้มกันวิทยา มาประยุกต์ใช้ร่วมกับวิธีการค้นหา รักษา ควบคุม และป้องกันวัณโรค โดยสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญ งบประมาณฝึกอบรมระหว่างบุคลากรทั้ง 2 ประเทศ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ในห้องปฏิบัติการ ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี มีหน่วยงานร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมควบคุมโรค สถาบันโรคทรวงอก ม.มหิดล และหน่วยงานในเขตสุขภาพที่ 1, 2, 4, 5, 7 และ 8 เป็นพื้นที่ดำเนินการ สนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติยุติวัณโรค โดยใช้งานวิจัยเป็นพื้นฐาน ปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ให้เหมาะสมกับบริบทของไทย และประโยชน์ของประชาชน นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายลดป่วย-ตายจากวัณโรค คาดว่าจะเห็นแนวโน้มลดลงได้ และบรรลุเป้าหมาย SDGs ยุติวัณโรคได้ในปี 2578” นพ.พิเชฐ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น