"ชลน่าน" เตรียมลงพื้นที่สุพรรณบุรี หลังเกิดเหตุโรงงานพลุระเบิด ซ้ำรอยนราธิวส พบเสียชีวิตแล้ว 20 ราย สูญหาย 10 ราย เตรียมทีมแพทย์ช่วยพิสูจน์อัตลักษณ์ เฝ้าระวังผลกระทบจากสารเคมี พร้อมทีม MCATT เยียวยาจิตใจ
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีโรงงานพลุใน ต.สวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เกิดเหตุระเบิด ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ว่า จากรายงานขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 20 ราย คาดว่าจะสูญหาย 10 ราย สถานการณ์ในพื้นที่ยังถือว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงอยู่ คือ ยังคุมพื้นที่ไม่ได้ เกรงว่าอาจจะมีการระเบิดซ้ำ ส่วนของ สธ.นั้น นพ.โอภาส การยืกวินพงศ์ ปลัด สธ. ผู้ตรวจราชการ และทางพื้นที่ก็เริ่มเข้าสู่พื้นที่แล้ว เข้าไปดูแลในมิติการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นเกี่ยวกับด้านการแพทย์และสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ผู้บาดเจ็บที่เข้ามาสู่การรักษามีน้อยมาก ที่เจอคือผู้เสียชีวิต ก็จะไปดูแลเรื่องการพิสูจน์อัตลักษณ์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
"ผมจะลงไปดูพื้นที่ด้วย เพราะสถานการณ์อย่างนี้กระเทือนถึงความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน เหตุการณ์ไม่ได้เกิดเพียงครั้งเดียว แต่เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก อย่างที่นราธิวาสเป็นตัวอย่างเมื่อไม่กี่เดือน เราจะมีมาตรการอะไรอย่างไรที่จะป้องกันความปลอดภัย ความมั่นคงในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะมิติสุขภาพที่เกี่ยวกับ สธ.เรา" นพ.ชลน่านกล่าว
นพ.ชลน่านกล่าวว่า ส่วนเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาก็จะไปดูในเชิงระบบต่อไป แต่สิ่งที่ สธ.ขาดไม่ได้คือ ทีมประเมินสภาพจิตใจ MCATT เราพร้อมแล้วก็จะลงไปดูว่า ผู้เกี่ยวข้อง ญาติใกล้ชิดต่างๆ ว่าสภาพจิตใจจะเป็นอย่างไร รับผลกระทบขนาดไหน จะคัดออกมาแล้วเยียวยาไป
ถามว่าบุคลากรในพื้นที่เเพียงพอที่จะดูแลสถานการณ์หรือไม่ ต้องระดมจากพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาช่วยหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า จากรายงานผู้บาดเจ็บมีน้อยมากหรือไม่มีเลย ความจำเป้นระดมแพทย์ไปดูแลรักษาก็อาจจะไม่จำเป็น แต่ว่า 10 รายที่สูญหายคงต้องค้นหาต่อ ส่วนผู้รับผลกระทบบาดเจ็บอย่างอื่นก็ต้องไปดูว่าจะมีมากขึ้นนอกจากนี้หรือไม่ ทีมแพทย์หรือสถานบริการที่มีในพื้นที่น่าจะรองรับได้อยู่
ถามต่อว่าผลกระทบจากสารเคมีของพลุที่ระเบิดอาจจะฟุ้งกระจาย ต้องมีการเฝ้าระวังในพื้นที่ด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็ต้องมีการเฝ้าระวังด้วย ว่าตัวที่ระเบิดมีสารเคมีอะไรบ้างที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นดินประสิว บรรจุเพื่อทำพลุต่างๆ
ถามว่ามีการกำหนดขอบเขตพื้นที่อันตรายรัศมีเท่าใดหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายตำรวจหรือรักษาความปลอดภัย เราจะดูมิติทางการแพทย์ ทางการแพทย์ไม่มีรัศมี ใครรับผลกระทบเราไปดูหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. ได้เดินทางลงพื้นที่ไปยัง จ.สุพรรณบุรีแล้ว เพื่อติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
นพ.โอภาส กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รมว.สธ.ได้สั่งการทางด้านสาธารณสุขให้เตรียมพร้อมช่วยเหลือด้านต่างๆ โดยตนลงพื้นที่พร้อมกับ รมว.สธ.เพื่อจะติดตามว่า สามารถช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง เนื่องจากในพื้นที่มีการดำเนินการรวดเร็วในการให้ความช่วยเหลือแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการรับรายงานในพื้นที่ไม่มีผู้บาดเจ็บจากการเข้า รพ.เลย ส่วนใหญ่บ้านใกล้เคียงจะตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าจากการลงพื้นที่มีประเด็นน่ากังวลต้องช่วยเหลือเร่งด่วนอะไรบ้าง นพ.โอภาส กล่าวว่า ขณะนี้เราลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ แต่เบื้องต้นต้องแบ่ง 2 ส่วน คือ ผู้เสียชีวิตต้องพิสูจน์อัตลักษณ์ร่วมกับนิติเวช ซึ่งพื้นที่เตรียมการรองรับแล้ว และผู้บาดเจ็บ ผู้รับผลกระทบ ซึ่งได้มีทีมประเมินสภาพจิตใจ MCATT ลงไปช่วยเหลือแล้ว
ด้าน นพ.รัฐพล เวทสรณสุธี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่ เพื่อมารับการรักษาที่ รพ.เจ้าพระยายมราช เบื้องต้นได้รับรายงานวิกฤตหนักสีแดง 6-7 คน ส่วนผู้เสียชีวิตเหตุการณ์ครั้งนี้รวม 20 คน