สธ. จัดตั้งศูนย์ Tele consult รพ.เด็ก ให้คำปรึกษาโรคทางเด็ก ให้เด็กพัฒนาการช้าพื้นที่ห่างไกล เข้าถึงบริการ คำปรึกษา วินิจฉัยรักษาทันท่วงที หลังพบมีมากกว่า 7 พันคนต่อปี
เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเปิดงานมอบของขวัญวันเด็ก 2567 สธ. “การแพทย์ทางไกล เพื่อพัฒนาการสมวัยของเด็กไทยทุกคน” การประชุมวิชาการพัฒนาการเด็กแห่งชาติ และเปิดศูนย์ Tele consult ด้านพัฒนาการเด็กระดับชาติ ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบคำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 ว่า “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย” ซึ่งถือเป็นคำขวัญที่สอดคล้องกับบริบททางสังคม ที่จะร่วมพัฒนาเด็กไทยให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ด้วยวิธีคิด วิธีมองโลกอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะการเคารพความแตกต่างของมนุษย์ ซึ่ง สธ.ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนและส่งเสริมให้เด็กไทยทุกคนเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะด้านการส่งเสริมพัฒนาการตามวัย มีเป้าหมายให้เกิดบริการที่เท่าเทียมกันทุกพื้นที่ มีการยกระดับคุณภาพชีวิต และเพิ่มอัตราการเกิดของเด็กคุณภาพ
นพ.ชลน่านกล่าวว่า ที่ผ่านมา สธ.ได้ฒนาระบบเฝ้าระวังและคัดกรองพัฒนาการเด็กปฐมวัยด้วยคู่มือ DSPM แต่พบว่ามีเด็กจำนวนหนึ่งที่คัดกรองพัฒนาการแล้ว สงสัยว่ามีพัฒนาการล่าช้า แต่ไม่สามารถเข้าถึงการวินิจฉัยและรักษาตามมาตรฐานได้ในเวลาที่เหมาะสม เป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน สธ.และหน่วยงานในสังกัด อาทิ กรมการแพทย์ กรมอนามัย กรมสุขภาพจิต กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จึงร่วมกันจัดตั้งศูนย์ Tele consult ด้านพัฒนาการเด็กระดับชาติ เพื่อให้เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้าในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมีมาตรฐาน ได้รับการวินิจฉัยและเข้าสู่กระบวนการรักษาทันท่วงทีด้วยการแพทย์ทางไกลและมีระบบส่งต่อที่ดีหากมีความจำเป็นต้องส่งตัวเด็กมารักษาในรพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป รพ.จังหวัด ต่อไป
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. กล่าวว่า ข้อมูล Health Data Center สธ. พบว่า ระบบเฝ้าระวังและคัดกรองพัฒนาการเด็กปฐมวัย ปี 2561 - 2565 มีเด็กที่ได้รับการคัดกรองพัฒนาการสงสัยล่าช้า แต่ยังคงไม่สามารถเข้าถึงการวินิจฉัยและรักษาตามมาตรฐาน เฉลี่ยมากกว่า 7,000 คนต่อปี เนื่องจากพื้นที่ห่างไกล ขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กและการวินิจฉัย ตลอดจนระบบการส่งต่อมีช่องว่างทำให้ใช้ระยะเวลานานและมีค่าใช้จ่าย ซึ่งศูนย์ฯ นี้ จะเข้ามาช่วยเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนาขีดความสามารถด้านการให้บริการทางการแพทย์ที่ซับซ้อนแก่ รพ.ต่างๆ ในพื้นที่ห่างไกล ด้วยระบบบริการที่ไร้รอยต่อ
ด้าน พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เล็งเห็นความสำคัญของการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการดูแลรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล ผ่านระบบการแพทย์ทางไกล (Tele consult) เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับบริการด้านสาธารณสุขจากบุคลากรผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม รวมทั้งเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัย การรักษา และติดตามผลการรักษา ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ซึ่งได้บูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเครือข่ายสุขภาพ เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมและเกิดความยั่งยืน
ถามถึง Day Care Center นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้เราให้ความสำคัญ เพราะเด็กเกิดมา 6 เดือนแรกต้องได้รับนมแม่ หรือมากกว่า 6 เดือน เป็นอาหารที่สมบูรณ์ที่สุดสำหรับเด็ก ส่งเสริมให้เด็กรับนมแม่และเกิดความผูกพัน ส่วนหนึ่งมีเริ่มดำเนินการแล้ว แต่ส่วนหนึ่งอาจละเลยเรื่องนมแม่ ให้นมประเภทอื่น อยากส่งเสริมให้ Day Care Center ทุกที่ถ้ามีศักยภาพให้บวกเรื่องนมแม่เข้าไป ทุกหน่วยงาน ส่วนร่วมราชการ เอกชน ควรส่งเสริมมีสถานดูแลเด็กแรกเกิดในหน่วยงานนนั้น สธ.พยายามทำเป็นต้นแบบเพื่อดูแลเด็กให้สมบูรณ์พร้อม
ถามว่าทุกกรมต้องมี Day Care Center หมดเลยหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นแนวนโยบายที่เราพยายามขับเคลื่อนให้เป็นต้นแบบ