รู้ไว้ก่อนเดินทางปีใหม่ เช็กเลยสิทธิรักษา "บัตรทอง 30 บาท" หากเจ็บป่วยกะทันหัน อาการอะไร เข้า รพ.ไหน คัฟเวอร์รักษาฟรี แบ่ง 3 รูปแบบ ทั้งฉุกเฉินวิกฤตใช้สิทธิ UCEP รพ.ทุกแห่งรัฐ-เอกชนที่ใกล้สุด 72 ชม. ฉุกเฉินไม่วิกฤต รพ.รัฐใกล้ที่สุด ไม่ฉุกเฉินเข้ารักษาปฐมภูมิได้ทุกแห่ง ส่วนเจ็บป่วยเล็กน้อย เข้าร้านยา คลินิกพยาบาล พบหมอออนไลน์
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 มีวันหยุดยาวตั้งวันที่ 29 ธ.ค. 2566 - 1 ม.ค. 2567 ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางต่างจังหวัดเพื่อกลับบ้าน เยี่ยมครอบครัว หรือท่องเที่ยว นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้สั่งการให้ สปสช.ดูแลพร้อมแจ้งผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพฯ หากเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาที่ รพ. เข้ารับบริการแบ่งเป็น 3 กรณี ดังนี้ 1.เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตถึงแก่ชีวิต หากไม่รักษาทันทีมีโอกาสเสียชีวิตสูง เข้ารักษา รพ.ทุกแห่งที่อยู่ใกล้ที่สุดโดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็น รพ.รัฐหรือเอกชน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ตามสิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิ์ทุกที่ (UCEP) ยื่นเพียงบัตรประชาชนใบเดียว แจ้งใช้สิทธิ UCEP สปสช.มีระเบียบการเบิกจ่าย UCEP ภาครัฐ จากเดิมที่มีแค่ รพ.เอกชนที่ไม่ได้อยู่ในระบบหลักประกันฯ ทำให้ รพ.รัฐที่รับรักษา UCEP จะเบิกจ่ายได้เช่น รพ.เอกชน
"สิทธิ UCEP จะได้รับรักษาจนพ้นวิกฤตและเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย เมื่อพ้น 72 ชั่วโมง จะส่งรักษาต่อที่หน่วยบริการประจำ ให้สถานพยาบาลที่ให้การรักษาเบิกค่าใช้จ่ายจาก สปสช. ตามอัตราที่กำหนด โดย 6 อาการเข้าข่ายภาวะฉุกเฉินวิกฤต คือ 1.หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ 2.หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรง หายใจติดขัดมีเสียงดัง 3.เจ็บหน้าอกเฉียบพลันรุนแรง 4.ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น หรือมีอาการชักร่วม 5.แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัดแบบปัจจุบันทันด่วน หรือชักต่อเนื่องไม่หยุดและ6.มีอาการอื่นร่วม ที่มีผลต่อการหายใจ ระบบการไหลเวียนโลหิต และระบบสมอง ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต" นพ.จเด็จกล่าวและว่า หากป่วยฉุกเฉินแต่ไม่วิกฤตถึงแก่ชีวิต สามารถเข้ารับการรักษาได้ที่ รพ.รัฐที่ใกล้ที่สุด โดยยื่นเพียงบัตรประชาชนใบเดียวและแจ้งใช้สิทธิบัตรทอง
นพ.จเด็จกล่าวว่า 2.กรณีเจ็บป่วยที่ไม่ใช่ฉุกเฉินระดับวิกฤต หรือผู้มีสิทธิบัตรทองที่เดินทางไปต่างถิ่นแล้วมีความจำเป็นต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล เช่น มีความดันโลหิตขึ้นสูง ปวดศีรษะมาก เกิดภาวะท้องเสียรุนแรง ไข้หวัด ปวดท้อง เคืองตา ทำแผลต่อเนื่อง ตัดไหม หรือยาหมด (ต้องกินยาต่อเนื่องแต่ยาหมดระหว่างเดินทางไปต่างพื้นที่ มาขอรับยาได้) ฯลฯ สามารถเข้ารักษาได้ที่หน่วยบริการปฐมภูมิทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็น รพ.สต., สถานีอนามัย, ศูนย์สุขภาพชุมชน, รพ.อำเภอ, หน่วยบริการปฐมภูมิของ รพ.จังหวัด รวมถึงศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ กทม. คลินิกชุมชนอบอุ่น โดยยื่นบัตรประชาชนและแจ้งใช้สิทธิบัตรทอง
3.กรณีเจ็บป่วยเล็กน้อย สปสช.ได้ร่วมกับสภาวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข เพิ่มบริการให้ประชาชนมีความสะดวกมากขึ้นดังนี้ เจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ ยื่นบัตรประชาชนใบเดียว ปรึกษาเภสัชกรและรับยาได้ที่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการได้ทั่วประเทศ ไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยสังเกตสติกเกอร์ “ร้านยาคุณภาพของฉัน ให้บริการเจ็บป่วยเล็กน้อย” หรือดูรายชื่อร้านยาที่เข้าร่วมได้ที่ https://www.nhso.go.th/downloads/204 , เจ็บป่วยเล็กน้อย 32 อาการ ยื่นบัตรประชาชนใบเดียว เข้ารักษาโรคเบื้องต้นตามขอบเขตวิชาชีพได้ที่คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่นกว่า 600 แห่งที่เข้าร่วมได้ทั่วประเทศ สังเกตสติกเกอร์ คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น และ จ็บป่วยเล็กน้อย 42 อาการ หากอยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล 5 จังหวัด (นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม) มีที่อยู่ให้จัดส่งยาได้ พบหมอออนไลน์ รอรับยาที่บ้านผ่านแอปพลิเคชันสุขภาพ 4 ช่องทาง
นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า ส่วนประชาชนผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท ในกรณีที่เจ็บป่วยด้วยโรคโควิด-19 สามารถใช้สิทธิเข้ารับการรักษาพยาบาลได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยผู้ป่วยกลุ่มไม่มีอาการหรือเจ็บป่วยเล็กน้อยสามารถรับบริการรับยาที่ร้านยา, บริการโควิด-19 ด้วยระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) และบริการปฐมภูมิทุกที่ได้ ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงขอให้เข้ารับบริการที่โรงพยาบาลตามสิทธิ โดย สปสช. ยังคงสิทธิประโยชน์บริการเพื่อดูแลผู้ป่วยโควิดอย่างต่อเนื่อง ดูรายละเอียดที่ https://www.nhso.go.th/news/3674