สบส.ร่วม สพฉ.ลงสอบเจ้าหน้าที่ รพ.เอกชน 5 ปาก ปมปัดรักษาหนุ่มไต้หวันจนเสียชีวิต พิจารณาเรื่องการปฏิเสธคนไข้ภาวะวิกฤต และมาตรฐานการช่วยเหลือผู้ป่วยภาวะวิกฤต เตรียมรวบรวมข้อเท็จจริงเสนอ รมว.สธ. 14 ธ.ค. พร้อมหาข้อสรุปสัปดาห์หน้า
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงกรณีส่งเจ้าหน้าที่ สบส.ลงตรวจสอบข้อเท็จจริง รพ.เอกชน ย่านพัฒนาการ กรณีข่าวปฏิเสธรับผู้ป่วย ซึ่งเป็นหนุ่มชาวไต้หวันที่ประสบอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนจนหมดสติ ซึ่งอยู่ห่างกัน 500 เมตร โดยให้ไป รพ.รัฐที่อยู่ไกลกว่า 10 กิโลเมตรแทน จนผู้ป่วยเสียชีวิตระหว่างทาง ว่า วันนี้ สบส.พร้อม สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้ลงพื้นที่สอบถ้อยคำเจ้าหน้าที่ รพ.เอกชนดังกล่าว รวม 5 ปาก เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยจะรวบรวมข้อเท็จจริงทั้งหมดเสนอต่อ รมว.สธ.วันที่ 14 ธ.ค. นี้
ทั้งนี้ สบส.จะพิจารณาข้อเท็จจริงเรื่อง การปฏิเสธคนไข้ในภาวะวิกฤต ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มาตรา 36 ซึ่งกำหนดให้ผู้รับอนุญาตประกอบกิจการหรือผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการของสถานพยาบาลต้องควบคุมดูแลให้มีการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วย ซึ่งอยู่ในสภาพอันตรายและจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ป่วยพ้นจากอันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพและตามประเภทของสถานพยาบาลนั้น ๆ ผู้กระทำผิดจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจะมีการประชุมหาข้อสรุปในสัปดาห์หน้า ส่วนสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) จะพิจารณาเรื่องมาตรฐานการช่วยเหลือผู้ป่วยในภาวะวิกฤต