xs
xsm
sm
md
lg

สธ.เร่งคัดกรองคนไร้ฟันทั้งปาก ใส่ฟันเทียม-ฝังราก ให้ครบเป้าหมายโครงการเฉลิมพระเกียรติในปี 67

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สธ.เผยโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ ใส่ฟันเทียมแล้ว 5.3 หมื่นคน ฝัรากฟันเทียม 1.6 พันคน ประสานทุกจังหวัดคัดกรองเพิ่ม ตั้งเป้าใส่ฟันเทียมให้ครบ 7.2 หมื่นคน และฝังราก 7.2 พันคนให้ครบในปี 2567 หนุนจัดบริการใน รพ.ขนาด 120 เตียงขึ้นไปใช้กลไกเขตบริการสุขภาพติดตาม

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการฟันเทียม รากฟันเทียม เฉลิมพระเกียรติฯ เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา พบว่า ปี 2566 กรมอนามัย ร่วมกับกรมการแพทย์ สปสช. และมูลนิธิทันตนวัตกรรมในพระบรมราชูปถัมภ์ ดำเนินโครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 ก.ค. 2567 เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการฟันเทียมและรากฟันเทียมแก้ปัญหาการสูญเสียฟันทั้งปากหรือเกือบทั้งปากในกลุ่มผู้สูงอายุและก่อนวัยสูงอายุ มีผู้ได้รับการใส่ฟันเทียม 53,897 คน ได้รับบริการฝังรากฟันเทียม 1,668 คน ขณะนี้มีหน่วยบริการให้บริการฝังรากฟันเทียมทั้งหมด 298 แห่ง จัดบริการแล้ว 159 แห่ง ตั้งเป้าหมายเพื่อบรรลุโครงการในปี 2567 โดยให้มีผู้ได้รับบริการใส่ฟันเทียม 72,000 คน ฝังรากฟันเทียม 7,200 คน


"สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ ไพัฒนาศักยภาพทันตแพทย์และผู้ช่วยทันตแพทย์ในหน่วยบริการสังกัด สธ. ส่วน สปสช.ร่วมกับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) จัดซื้อรากฟันเทียมและจัดส่งจังหวัด เพื่อบริหารจัดการกระจายรากฟันเทียมในจังหวัดในการจัดบริการ โดยรากฟันเทียมที่ใช้เป็นรากฟันเทียมที่ผลิตในไทย รุ่น PRK อยู่ในบัญชีนวัตกรรมไทย ส่วนกรมอนามัยและ สปสช.ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ จัดรณรงค์โครงการฯ 4 ภาค ให้ความรู้แก่ประชาชน” นพ.พงศธรกล่าว

ด้าน พญ.อัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปี 2567 กรมอนามัยพัฒนากลไกการให้บริการ ดังนี้ 1.ประสานให้ทุกจังหวัดคัดกรองผู้ที่ไม่มีฟันในปากและฟันเทียมทั้งปากเดิมหลวม 2.เตรียมความพร้อมหน่วยบริการ พัฒนาศักยภาพทันตแพทย์และผู้ช่วยทันตแพทย์ในการจัดบริการ 3.ผลักดันการจัดบริการรากฟันเทียมรองรับฟันเทียมให้เป็นสิทธิประโยชน์ในกลุ่มผู้ใช้สิทธิข้าราชการ และประกันสังคมในอนาคต และ 4.สื่อสาร ประชาสัมพันธ์โครงการ รณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ และจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการรากฟันเทียมรองรับฟันเทียมใน 76 จังหวัดและ กทม. กรมอนามัยได้นำเสนอเพื่อพิจารณา ดังนี้


1.สนับสนุนการจัดบริการให้เกิดขึ้นในหน่วยบริการระดับ M2 ขนาด 120 เตียงขึ้นไป ในทุกจังหวัด รวมทั้งติดตาม กำกับ ผ่านการติดตามนโยบาย สธ. กลไกตรวจราชการ และคณะกรรมการการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) สาขาสุขภาพช่องปาก เพื่อให้การบริการบรรลุตามเป้าหมาย 2.เพิ่มการประชาสัมพันธ์ สื่อสาร ค้นหา คัดกรองกลุ่มเป้าหมายในชุมชน ผ่านเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุข ร่วมกับใช้สื่อประชาสัมพันธ์ที่สามารถสร้างความเข้าใจแก่ผู้สูงอายุ และขอความร่วมมือ กทม.เขตสุขภาพที่ 13 และ สปสช.เขต 13 จัดระบบเพื่อสนับสนุนหน่วยบริการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ กทม.ดำเนินการค้นหา คัดกรอง เตรียมช่องปาก และส่งต่อกลุ่มเป้าหมายเพื่อรับบริการฝังรากฟันเทียม


กำลังโหลดความคิดเห็น