สภาเภสัชฯ เผย 4 จังหวัดนำร่องบัตรประชาชนรักษาทุกที่ มี "ร้านยา" รวม 448 แห่ง ขึ้นทะเบียน สปสช. 111 แห่ง ขาดอีก 373 แห่ง ชวนสมัครเป็นหน่วยบริการบัตรทอง เลือกได้ทั้งดูแลเจ็บป่วยเล็กน้อย - สร้างเสริมสุขภาพ หรือทั้งสองอย่าง
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ภก.ปรีชา พันธุ์ติเวช อุปนายกสภาเภสัชกรรม คนที่ 2 กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนดพื้นที่นำร่องใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ทุกเครือข่ายใน 4 จังหวัด คือ แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส จะเริ่มให้บริการวันแรกในวันที่ 8 ม.ค. 2567 หากดูข้อมูลในส่วนของร้านยา จ.แพร่ มี 85 แห่ง ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. 20 แห่ง เข้าร่วมโครงการให้บริการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค 7 แห่ง ดูแลผู้มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 8 แห่ง , เพชรบุรี มีร้านยา 103 แห่ง ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. 24 แห่ง ให้บริการสร้างเสริมสุขภาพฯ 5 แห่ง และดูแลผู้มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 3 แห่ง , ร้อยเอ็ด มีร้านยา 205 แห่ง ขึ้นทะเบียน 52 แห่ง ให้บริการสร้างเสริมสุขภาพฯ 23 แห่ง และดูแลผู้มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 22 แห่ง และนราธิวาส มีร้านยา 91 แห่ง ขึ้นทะเบียน 15 แห่ง ให้บริการสร้างเสริมสุขภาพฯ 6 แห่ง และดูแลผู้มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 5 แห่ง
“ถ้าดูใน 4 จังหวัดนำร่อง มีร้านยารวม 448 แห่ง ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. 111 แห่ง ยังขาดอีก 373 แห่ง เช่นเดียวกับร้านยาที่ให้บริการสร้างเสริมสุขภาพฯ และดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย เราต้องการเติมเต็มในส่วนของร้านยาที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. ขณะที่สภาเภสัชกรรมจะดูแลเรื่องการอบรมให้บริการสร้างเสริมสุขภาพฯ ดูแลผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย เพื่อให้ร้านยามีศักยภาพในการให้บริการ ซึ่งร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ สามารถเลือกได้ว่าจะให้บริการสร้างเสริมสุขภาพฯ หรือดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย หรือทำทั้ง 2 อย่าง ดังนั้น เรามาระดมกำลังกันเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการ ร่วมผลักดันโครงการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม”ภก.ปรีชา กล่าว
ภก.ปรีชากล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา สภาเภสัชกรรมได้เชิญร้านยาใน 4 จังหวัดนำร่อง ร่วมประชุมออนไลน์เพื่อชี้แจงแนวทางการให้บริการของร้านยาภายใต้โครงการดังกล่าว พร้อมเชิญชวนร้านยาที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้สมัครขึ้นทะเบียนเพื่อร่วมดูแลประชาชนสิทธิบัตรทองไปด้วยกัน โดยได้มีการชี้แจงแนวทางการให้บริการต่างๆที่ร้านยาตามที่ สปสช.กำหนด ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นการให้บริการด้านการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค ภายใต้ชื่อ “ร้านยาของฉัน ให้บริการสร้างเสริมสุขภาพ” และการให้บริการดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 32 กลุ่มอาการ ภายใต้ชื่อ “ร้านยาคุณภาพของฉัน ให้บริการดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย” ขณะเดียวกัน ยังได้มีการชี้แจงแนวทางการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการส่งต่อเฉพาะด้านเภสัชกรรมกับ สปสช. โดยใช้ระบบ One Stop Service ในการขึ้นทะเบียนออนไลน์และเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดภาระด้านเอกสารของร้านยา สะดวกและสามารถรับรองการขึ้นทะเบียนได้อย่างรวดเร็ว โดย สปสช.ได้ระบุว่าระบบ One Stop Service จะทำให้ระยะเวลาการสมัครจนถึงขั้นประกาศขึ้นทะเบียนลดลงจาก 30 วัน เป็นไม่เกิน 3 วัน
ทั้งนี้หน่วยบริการสามารถสมัครได้ที่ https://ossregister.nhso.go.th สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สอบถามเพิ่มเติม สายด่วน สปสช. 1330 กด 5 (provider center)