"หมอประกิต" เปิดโปงหลังถูก "อาสา ศาลีคุปต์" กมธ.วิสามัญบุหรี่ไฟฟ้า บิดเบือนออกสื่อ อ้างริเริ่มถกอภิปราย ให้ยกเลิกห้ามขายมาเป้นควบคุมแทน ย้ำไม่เป็นความจริง มีแต่จอให้คุมเข้ม สร้างความเข้าใจผิดคนในแวดวงสาธารณสุข จน WHO SEARO มาสอบถาม จี้แก้ข่าว จ่อร้องประธานสภา สอบวินิจฉัยพฤติกราม เข้าข่ายขัดจริยธรรม
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ศ.นพ ประกิต วาทีสาธกกิจ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ และประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา ตนได้รับการสอบถามจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงประจำสำนักงานองค์การอนามัยโลก ภูมิภาคเซียตะวันออกเฉียงใต้ (WHO SEARO) หลังอ่านเจอข่าว นายอาสา ศาลีคุปต์ แกนนำกลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST) ให้ข้อมูลในหนังสือพิมพ์ Malaya Business Insight เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ว่า ตนเป็นผู้ริเริ่มการถกอภิปรายในรัฐสภา เพื่อยกเลิกการห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าและเปลี่ยนมาเป็นการควบคุมแทน และจากการตรวจสอบเพิ่มเติมข่าวยังเผยแพร่ใน INQUIRER. net วันที่ 20 พ.ย. ด้วย ทั้งนี้ การให้ข่าวดังกล่าวของนายอาสาที่อ้างถึงตน เป็นเรื่องที่บิดเบือนจากความเป็นจริง เพราะตนไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มให้มีการถกอภิปรายเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าในสภาผู้แทนราษฎร ที่สำคัญตนยืนยันมาตลอดที่ขอให้รัฐบาลไทยคงกฎหมายห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า
“การให้ข่าวที่บิดเบือน ไม่เป็นความจริงดังกล่าว ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในแวดวงผู้คนที่เกี่ยวข้องกับการสาธารณสุขทั้งในระดับชาติ และนานาชาติ ถึงจุดยืนของผม ที่คัดค้านการยกเลิกกฎหมายห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าของประเทศไทยมาโดยตลอด ซึ่งทำให้เกิดความสับสนและสร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือของผม อีกอย่างหนึ่ง นายอาสา ขณะนี้เป็นหนึ่งในกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณากฎหมายบุหรี่ไฟฟ้า สภาผู้แทนราษฎร การออกมาให้ข่าวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของกรรมาธิการฯ ในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง น่าจะมีความผิดข้อบังคับ ว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ.2563 ข้อ 12 ที่ห้ามสมาชิกและกรรมาธิการ นำเอาเรื่องที่เป็นเท็จมาอภิปรายแสดงความเห็นในที่ประชุม หรือที่อื่นใด” ศ.นพ.ประกิตกล่าว
ศ.นพ.ประกิตกล่าวว่า ตนจึงขอเรียกร้องให้นายอาสา แก้ไขความผิดพลาดที่ให้ข่าวในเรื่องที่ไม่เป็นความจริงที่พาดพิงถึงตน โดยแจ้งต่อสื่อ Malaya Business Insight และ INQUIRER. net และส่งสำเนาที่แจ้งต่อสื่อทั้ง 2 ฉบับมาให้ตนด้วย ขณะเดียวกันตนจะทำหนังสือร้องเรียนถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้วินิจฉัยว่าการกระทำของนายอาสา ขัดต่อ ข้อบังคับ ประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ.2563 หรือไม่ และมีความผิดหรือไม่ รวมทั้งส่งหนังสือหนังสือร้องเรียนต่อประธานกรรมาธิการวิสามัญที่พิจารณากฎหมายบุหรี่ไฟฟ้า นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล เพื่อแจ้งที่ประชุมกรรมาธิการวิสามัญเพื่อทราบและบันทึกในรายงานการประชุมของกรรมาธิการวิสามัญฯ ด้วย