สปสช.เตรียมใช้วิธีปิดสิทธิ ยืนยันตัวตนหลังรับบริการ-ก่อนรับยา ในสิทธิบัตรทอง เหมือนอย่างสิทธิข้าราชการ รองรับบัตรประชาชนรักษาทุกที่ นำร่อง 4 จังหวัด ช่วยลดขั้นตอน ลดแออัดช่วงยืนยันตัวตน และพิสูจน์รับบริการได้ หนุนจ่ายเงิน รพ.ใน 3 วัน อาจใช้ผ่านตู้อัตโนมัติหรือ QR Code
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา สปสช.ลงพื้นที่ รพ.สมุทรปราการ เยี่ยมชมรับฟังความคิดเห็นการเชื่อมโยงข้อมูลการยืนยันตัวตนหลังเข้ารับบริการของสิทธิข้าราชการ เพื่อนำมาปรับใช้กับผู้ป่วยระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รองรับ “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” ตามนโยบายยกระดับ 30 บาท ใน 4 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาสที่ประชาชนสามารถเข้ารับบริการในหน่วยบริการได้ทุกเครือข่าย ซึ่ง สปสช. เคยแจ้งไว้ในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2566 ว่า จะปรับระบบการจ่ายเงินให้หน่วยบริการเร็วขึ้นไม่เกิน 72 ชั่วโมง หลัง รพ.ส่งข้อมูลเพื่อเบิกจ่าย ซึ่งวิธีการที่ทำให้เห็นชัดว่ารวดเร็วที่สุดคือ การใช้ตู้อัตโนมัติที่ใช้เพียงบัตรประชาชาชน หรือ QR Code สแกนก่อนรับยา
“การยกระดับบัตรทอง ถ้าใช้กลไกนี้จะทำให้ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องรอ มาถึงใช้ตู้รับยาเสร็จแล้วจบเลย ฉะนั้นเชื่อว่า 3 วิธี ในการปิดสิทธิหรือยืนยันตัวตนหลังเข้ารับบริการจะช่วยทำให้รู้ว่ามีผู้ป่วยเข้ามารับบริการจริง ซึ่งถ้า สปสช. รู้ว่าเกิดบริการก็จะสามารถจ่ายเงินให้เร็วขึ้น และอาจจะขยายไปทั่วประเทศได้” นพ.จเด็จ กล่าว
นพ.จเด็จ กล่าวว่า สปสช. มีความพร้อมเรื่องจ่ายเงินอย่างรวดเร็ว แต่ต้องขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการส่งข้อมูลของแต่ละ รพ. เชื่อว่าจะสามารถจ่ายเงินได้ต่ำกว่า 3 วัน หากระบบสามารถเชื่อมต่อกันได้แบบไร้รอยต่อ แต่ต้องดูว่าภายใน 4 จังหวัดนำร่องจำเป็นต้องมีตู้อัตโนมัติ 150 ตู้หรือไม่สำหรับจำนวน รพ.ประมาณ 50 แห่ง รวมถึงจะต้องพูดคุยกับธนาคาร และหน่วยงานพัฒนาระบบ ซึ่งก็จะต้องไปดู และสื่อสารกันอีกครั้งในภาพใหญ่ของประเทศว่าจะขับเคลื่อนอย่างไรให้เกิดเป็นระบบที่มีความสะดวก เพราะส่วนนี้ถือเป็นองค์ประกอบที่จะทำให้ สปสช. สามารถจ่ายเงินให้หน่วยบริการได้อย่างรวดเร็วขึ้น ทั้งนี้ จากการมาเห็นการทำงานของ รพ.สมุทรปราการทำให้เห็นว่า ที่ผ่านมาการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่ยังมีปัญหา เช่น ประชาชนยังต้องยืนรอหน้าห้องบัตร ฯลฯ ซึ่งใช้บัตรประชาชนเสียบเข้าตู้ หรือ QR Code หลังเข้ารับบริการก่อนรับยาก็จะสามารถพิสูจน์ได้เช่นเดียวกันว่ามีการมารับบริการจริง
“เราสามารถยกเลิกการยืนยันตัวตนก่อนเข้ารับบริการได้เลย สปสช. ขอรู้อย่างเดียวว่ามีคนรับบริการแล้วเพื่อที่จะจ่ายเงิน ซึ่งเราก็จะดูระบบธนาคารด้วยว่าจะโอนเงินอย่างไรให้เร็วขึ้น จะลดขั้นตอนสำคัญไปอีกขึ้นตอนคือการเปิดสิทธิ สำหรับ สปสช. เอาแค่ปิดสิทธิหรือยืนยันตัวตนหลังเข้ารับบริการแล้วจบเลย” นพ.จเด็จ กล่าว
ด้าน นพ.เกรียงศักดิ์ คำอิ่ม ผอ.รพ.สมุทรปราการ กล่าวว่า การเข้ามารับบริการของสิทธิข้าราชการใน รพ.ที่ผ่านมาต่อปี มีอยู่ประมาณ 7.3% ของผู้เข้ามารับบริการแบบผู้ป่วยนอกทั้งหมด ซึ่งจะมีวิธีการยืนยันตัวตนว่า ได้เข้ารับบริการแล้วหรือที่เรียกกันว่าการปิดสิทธิอยู่ 2 แบบ 3 วิธี ได้แก่ 1.ปิดสิทธิผ่านเจ้าหน้าที่ รพ.ด้วยเครื่อง EDC หรือเครื่องรูดบัตร 2.ปิดสิทธิผ่านตู้อัตโนมัติ KIOSK และ 3.ปิดสิทธิผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งการปิดสิทธิผ่านตู้อัตโนมัติ จะคล้ายกับการยืนยันตัวตนก่อนเข้ารับบริการ ซึ่งจะสามารถปิดสิทธิหลังจากเข้ารับบริการได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตนก่อน ส่งผลให้ประชาชนสามารถรับบริการได้อย่างรวดเร็วขึ้น รวมถึงยังช่วยลดความแออัดของ รพ.ได้ เพราะประชาชนไม่ต้องยืนรอตามจุดยืนยันตัวตนต่างๆ ของ รพ. การใช้วิธีปิดสิทธิหรือยืนยันว่าได้เข้ารับบริการแล้วผ่านตู้อัตโนมัติก็จะคล้ายกับการยืนยันตัวตน ซึ่งประชาชนสิทธิบัตรทองก็อาจจะสามารถใช้ระบบเดียวกันได้
