สปสช.รายงานผลดำเนินงานกองทุนบัตรทองปี 66 ครอบคลุมประชากร 99.4% ผู้ป่วยนอกรับบริการ 164.98 ล้านครั้ง ผู้ป่วยใน 6.26 ล้านครั้ง หลายบริการ ปชช.เข้าถึงเกินเป้าหมาย
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า การดำเนินงานระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ “บัตรทอง 30 บาท” ปีงบประมาณ 2566 ดูแลคนไทยผู้มีสิทธิบัตรทอง 47.73 ล้านคน ให้เข้าถึงสิทธิและบริการต่างๆ ภายใต้งบประมาณที่รับการจัดสรร 142,297,936,700 บาท ไม่รวมเงินเดือนหน่วยบริการภาครัฐ จำนวน 61,842,091,100 บาท เป็นงบเหมาจ่ายรายหัวจำนวน 3,901.21 บาทต่อราย รวมงบบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 506.07 บาทต่อราย และงบบริการช่วยเหลือเบื้องต้นผู้รับ-ผู้ให้บริการ 9.16 บาทต่อราย ซึ่งในประกาศปี 2566 จะอยู่นอกงบเหมาจ่ายรายหัว โดยมีหน่วยบริการทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศร่วมให้บริการจำนวน 17,247 แห่ง ภาพรวมดำเนินการตามเป้าหมายที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ ครอบคลุมประชากรผู้มีสิทธิบัตรทอง 99.4% บริการผู้ป่วยนอก 164.98 ล้านครั้ง จากเป้าหมาย 166.86 ล้านครั้ง คิดเป็นร้อยละ 98.87 บริการผู้ป่วยใน 6.26 ล้านครั้ง จากเป้าหมาย 6.49 ล้านครั้ง คิดเป็น 96.48%
ส่วนการดูแลผู้ป่วยที่บริหารจัดการนอกงบเหมาจ่ายรายหัว ดูแลประชาชนเข้าถึงบริการตามเป้าหมายด้วย อาทิ บริการดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ มีผู้ติดเชื้อฯ และผู้ป่วยเอดส์รับยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง 305,527 คน จากเป้าหมาย 299,420 หรือคิดเป็น 102.04% ดูแลกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับบริการส่งเสริมและป้องกันการติดเชื้อฯ 3,372,839 จากเป้าหมาย 3,135,165 คน หรือคิดเป็น 107.58% , บริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายด้วยการบำบัดทดแทนไต บริการสะสมรวม 92,666 คน (นับซ้ำในรายผู้ป่วยที่ได้รับบริการมากกว่า 1 วิธี ในรอบปี) ของเป้าหมาย 67,786 คน คิดเป็น 136.70% แยกเป็นบริการล้างไตผ่านช่องท้องอย่างต่อเนื่อง (CAPD) สะสม 23,445 คน ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (HD) สะสม 62,197 คน ผ่าตัดปลูกถ่ายไตรายใหม่ 284 คน และรับยากดภูมิคุ้มกันหลังปลูกถ่ายไต ทั้งรายเก่าและรายใหม่ 2,852 คน ล้างไตทางช่องท้องด้วยเครื่องอัตโนมัติ (APD) สะสม 3,888 คน
บริการควบคุมป้องกันความรุนแรงของโรคและภาวะแทรกซ้อนสำหรับผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง รับบริการจำนวน 4,269,315 คน ของเป้าหมาย 4,370,013 คน คิดเป็น 97.70% , บริการผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรังในชุมชน มีผู้ป่วยลงทะเบียนรับบริการ 13,107 คน จากเป้าหมายที่ได้รับจัดสรรงบ 12,271 คน คิดเป็น 106.81% จำนวนนี้มีผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรังในชุมชน ที่ได้รับการติดตามเยี่ยม 11,983 คน , การบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงที่มีภาวะพึ่งพิง (LTC) ทุกสิทธิทุกกลุ่มอายุที่ได้รับบริการสาธารณสุข หรือรับบริการตามแผนการดูแลรายบุคคล 334,823 คน จากเป้าหมาย 210,941 คน คิดเป็น 158.73% โดยมีกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นเข้าร่วมโครงการ 7,179 แห่ง จากกองทุนฯ 7,741 แห่ง คิดเป็น 92.74% รวมถึงมีการเพิ่มเติมค่าใช้จ่ายหน่วยบริการในพื้นที่กันดารพื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่ สปสช. ได้รับจัดสรรงบเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้หน่วยบริการสังกัดสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข 186 แห่ง 1,490 ล้านบาท จ่ายตามเกณฑ์พื้นที่กันดาร/พื้นที่เสี่ยงภัย 168 แห่ง จ่ายตามเกณฑ์พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 57 แห่ง และจ่ายตามเกณฑ์ทั้ง 2 เกณฑ์ 39 แห่ง
บริการสาธารณสุขปฐมภูมิ สปสช. สนับสนุนการจัดบริการระดับปฐมภูมิที่มีแพทย์ประจำครอบครัว และเพิ่มสิทธิประโยชน์บริการสุขภาพวิถีใหม่ ได้แก่ ร้านยาคุณภาพ ส่งยา/เวชภัณฑ์ทางไปรษณีย์ บริการสาธารณสุขระบบทางไกล ตรวจทางห้องปฏิบัติการนอกหน่วยบริการ บริการสาธารณสุขของหน่วยบริการที่รับการส่งต่อเฉพาะด้านการพยาบาลและการผดุงครรภ์ บริการดูแลแบบผู้ป่วยในที่บ้าน (Home ward) บริการสายด่วนสุขภาพจิต 1323 และบริการการแพทย์ทางไกลในลักษณะผู้ป่วยนอกทั่วไป 42 กลุ่มโรค รวมถึงบริการสายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 ผลดำเนินงานโดยรวมมีผู้ป่วยเข้าถึงทั้งสิ้น 2,827,756 ครั้ง หรือ 99.93% จากเป้าหมาย 2,829,846 ครั้ง
ส่วนบริการสาธารณสุขร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีประชากรในพื้นที่ได้รับบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในระดับพื้นที่ ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอด เด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน เด็กวัยเรียนและเยาวชน วัยทำงาน ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง คนพิการและทุพลภาพ และประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยง ภาพรวมบริการนี้มีประชาชนรับบริการ 43,310,514 คน คิดเป็น 163.35% จากเป้าหมาย 26,514,000 คน นอกจากนี้ยังมีบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค สามารถสร้างความคลุมสิทธิประชาชนไทยทุกคนได้ 66,602,086 คน คิดเป็น 100.48% จากเป้าหมาย 66,286,000 คน
"จากรายงานการดำเนินงานกองทุนบัตรทองฯ นี้ ผลดำเนินงานไม่เพียงเป็นไปตามเป้าหมายเท่านั้น แต่หลายผลงานยังเกินจากเป้าหมายที่วางไว้ สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพการบริหารจัดการกองทุนฯ ของ สปสช. ที่ดูแลให้เกิดการเข้าถึงสิทธิประโยชน์บริการให้กับประชาชน รวมถึงความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในการเข้ารับบริการโดยใช้สิทธิตามสิทธิประโยชน์ต่างๆ” เลขาธิการ สปสช. กล่าว
