สบส.ส่งทีมวิศวกร MSERT ตรวจสอบโครงสร้างอาคาร 14 รพ. ในเชียงราย เชียงใหม่ และสกลนคร หลังกระทบเหตุแผ่นดินไหว ช่วยฟื้นฟูอาคารหากเสียหายต่อโครงสร้าง เพิ่มความปลอดภัยบุคลากร ปชช. ย้ำปรับปรุงอาคารเก่าพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหวให้รองรับมาก่อนแล้ว ส่วนอาคารใหม่สร้างแบบต้านแผ่นดินไหวเช่นกัน
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงการตรวจสอบอาคาร รพ.หลายแห่งที่มีรอยร้าวจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 พ.ย. ที่รัฐฉาน ประเทศเมียนมา ว่า บริเวณ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นพื้นที่รับรู้แรงสั่นสะเทือนได้มากที่สุด ซึ่งการเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่ออาคารสถานพยาบาล ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) หลายแห่ง สบส.จึงสั่งการให้ทีม MSERT หรือทีมวิศวกรฉุกเฉิน ประกอบด้วย วิศวกรเครื่องมือแพทย์ และวิศวกรโยธา ของศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 1 และ 8 ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างอาคารของสถานพยาบาลใน 3 จังหวัด ทั้ง 14 แห่ง ประกอบด้วย "เชียงราย" ได้แก่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ รพ.แม่ลาว รพ.สมเด็จพระญาณสังวร รพ.แม่จัน รพ.พาน รพ.สมเด็จพระยุพราชเชียงของ รพ.เชียงแสน รพ.พญาเม็งราย รพ.ดอยหลวง รพ.แม่ฟ้าหลวง และ รพ.แม่สาย "เชียงใหม่" ได้แก่ รพ.สันทราย และ รพ.เชียงดาว และ "สกลนคร" คือ รพ.สกลนคร เพื่อประเมินความเสี่ยง และฟื้นฟูอาคารสถานพยาบาลในกรณีที่เกิดความเสียหายต่อโครงสร้าง พร้อมกำชับทีมเอ็มเสิร์ท ให้เฝ้าระวังสถานการณ์แผ่นดินไหวอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่ และประชาชนผู้รับบริการ ตลอด 24 ชั่วโมง
ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า ปัจจุบันโครงสร้างอาคารเดิมของสถานพยาบาลในสังกัด สธ.ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว ทางกองแบบแผน สบส.ได้ดำเนินการออกแบบปรับปรุงโครงสร้างให้มีความมั่นคง แข็งแรงสามารถต้านทานการสั่นสะเทือนหากเกิดแผ่นดินไหวแล้ว ส่วนอาคารที่ก่อสร้างใหม่ กองแบบแผน ได้ออกแบบให้เป็นอาคารต้านแผ่นดินไหว ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2550 บุคลากรสาธารณสุข และประชาชน จึงสามารถมั่นใจได้ว่าอาคารสถานพยาบาลในสังกัด สธ.จะมีความมั่นคง สามารถรองรับสถานการณ์แผ่นดินไหวได้
