"ชลน่าน" เผย สธ.เอาผิด อ.เอก ฝ่ามือพลังจิต 3 ข้อหา หลังตรวจสอบไม่ได้รับอนุญาต ไม่เข้าข่ายผู้ประกอบวิชาชีพ ทั้งแผนปัจจุบัน แผนไทย หรือแพทย์ทางเลือก ย้ำอ้างศาสตร์ใหม่ต้องเข้าประเมินเพื่อขึ้นทะเบียนว่าปลอดภัย แจงต้องเข้ม กม.เพื่อคุ้มครองประชาชน อย่าหลงเชื่อการรักษาที่ไม่มีเหตุผล
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่อิมแพค เมืองทองธานี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี อ.เอก ฝ่ามือพลังจิต ให้ตบถีบรักษาคนด้วยพลังจิต ว่า ขณะนี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงของ สธ.ได้ทำหน้าที่และลงไปดูวิธีการ กระบวนการในการรักษาผู้ป่วย ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ได้รับอนุญาตอนุมัติหรือไม่ เพราะการรักษาดูแลคนไข้ถือเป็นการประกอบโรคศิลปะ การประกอบวิชาชีพเวชกรรม ต้องได้รับการอนุญาต ทราบว่าตอนนี้ไปตรวจสอบแล้วไม่เข้าข่ายเป็นผู้ประกอบวิชาชีพหรือไม่เข้าข่ายเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะเลย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายฉบับไหน ทั้งของแพทย์แผนไทย แพทย์ทางเลือก หรือแม้กระทั่งวิชาชีพเวชกรรมแพทย์ทั่วไป ก็ถือว่ายังไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนดูว่าพฤติกรรมเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยหรือไม่ในการบำบัด ซึ่งวิธีการเขาอ้างว่าเป็นศาสตร์ใหม่ ในแง่ของการดูแลเพื่อนมนุษย์การเจ็บป่วย แน่นอนว่ามีศาสตร์ใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้ามีศาสตร์ใหม่ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการของการประเมิน ตามที่มีกฎหมายบัญญัติไว้ หากผ่านการประเมินแล้วจึงจะประกอบวิชาชีพได้นี่คือแนวทาง
"อย่าบอกประชาชนว่าสาเหตุที่ สธ.ต้องเคร่งครัดในเรื่องนี้ เพราะการดูแลรักษา เป็นวิชาหรือเป็นวิธีการที่อันตรายถ้าไม่มีมาตรฐาน ไม่มีการคุ้มครองประชาชน อาจได้รับอันตรายจากการรักษาพยาบาลนั้นได้ เราเป็นห่วงตรงนี้เลยต้องใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ถ้าใครคิดว่ามีโอกาสให้ทางเราเข้าไปประเมิน ไปตรวจสอบก็ต้องทำกระบวนการ ทำตามกระบวนการเพื่ออนุญาตอนุมัติ ซึ่งขณะนี้มี 7 สาขาแล้วในการประกอบโรคศิลปะ" นพ.ชลน่านกล่าว
ถามว่าต้องกำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ลงไปดูแลให้หยุดและปิดทำการรักษาหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขณะนี้มีการดำเนินการแล้วใน 3 ข้อหา ก็ฝากประชาชนว่า ต้องใช้ความรู้ ความรอบคอบ ใช้สติในการพิจารณา อย่าได้หลงเชื่ออะไรที่ไม่มีเหตุไม่มีผล ส่วนผู้ที่จะดูแลเพื่อนมนุษย์ ก็ขอให้มีหลักที่ปฏิบัติเป็นมาตรฐานที่มีการยอมรับ มีการพิสูจน์ได้ เราไปดูการให้อยู่แล้ว ถ้าอยากจะขึ้นทะเบียนอยากจะขึ้นบัญชีเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะก็มาเข้าสู่กระบวนการให้ถูกต้อง
ถามว่าการรักษาลักษณะนี้หากจะทำให้ถูกต้อง ก็จะต้องไปยื่นเพื่อขึ้นทะเบียนในลักษณะของการแพทย์แผนไทยหรือการแพทย์ทางเลือกหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ตรงนี้ไม่ใช่แพทย์แผนปัจจุบันแน่นอน แต่จะตีเป็นแพทย์ทางเลือกหรือไม่ ต้องไปดูนิยามว่าเข้าข่ายตรงนั้นหรือไม่ ต้องไปดูนิยามและวิธีปฏิบัติวิธีการรักษา
ถามย้ำถึงการรักษาด้วยพลังจิต นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรื่องเหล่านี้มีองค์ประกอบทั้งรูปธรรมและนามธรรม ต้องยอมรับว่ามนุษย์เรามีทั้งรูปและนาม รูปคือร่างกายที่เห็น นามก็คือจิต 2 อย่างนี้มีความสัมพันธ์กัน เราไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า คำว่าจิตของเขาหมายถึงอะไร เขาอ้างว่าเป็นพลังจิตจริงหรือไม่อย่างไร มันพิสูจน์ไม่ได้ การรักษาของโลกขณะนี้ก็พิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ มีการรองรับอะไรที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ มันยังไม่มีหลักฐานที่จะไปรองรับได้ว่าเขาสามารถดำเนินการได้
ถามต่อว่าคนวิพากษ์วิตารณ์ในโซเชียลว่าเรียนหมอแทบตายสุดท้ายไปเชื่อการรักษาแบบนี้ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ก็ขึ้นกับความเชื่อความศรัทธาของมนุษย์ มันห้ามกันยาก แต่ถ้าจะเชื่อศรัทธาก็ต้องเชื่ออย่างมีเหตุมีผลและมีสติ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อตัวเรา