สปสช. เผยสิทธิดูแลผู้ติดเชื้อ "เอชไอวี" มีทั้งครอบคลุมสิทธิบัตรทองและทุกสิทธิ เผยปีงบ 66 รับยาต้านไวรัส และป้องกันติดเชื้อ ทะลุ 100% จากเป้าหมาย
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า บริการดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้เอดส์ เป็นสิทธิประโยชน์ภายใต้ “กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” มาตั้งแต่ปี 2549 รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ สปสช. ดำเนินการดูแลแยกจากงบเหมาจ่ายรายหัว โดยช่วง 18 ปีที่ผ่านมา มีการพัฒนาสิทธิประโยชน์ดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวีอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับกรมควบคุมโรค มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ประเทศไทย และศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เป็นต้น ครอบคลุมทุกด้านและทุกมิติ ทั้งตรวจหาเชื้อเอชไอวี บริการรักษาพยาบาล และบริการป้องกัน จนสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงได้อย่างทั่วถึง ซึ่งมีหลากหลายบริการที่จำเป็น มีทั้งบริการสำหรับสิทธิบัตรทอง คือ ยาต้านไวรัสสูตรพื้นฐานและสูตรดื้อยา , ยาต้านไวรัสป้องกันจากมารดาสู่ทารก , ยาต้านไวรัสเพื่อป้องกันหลังสัมผัสโรค กรณีสัมผัสจากการทำงานทางการแพทย์ , ยาต้านไวรัสป้องกันหลังสัมผัสที่ไม่ใช่จากการทำงาน กรณีถูกล่วงละเมิดทางเพศ , ยารักษาภาวะไขมันในเลือดสูงจากการกินยาต้านไวรัส และตรวจชันสูตรทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยหรือติดตามการรักษา
นอกจากนี้ ยังมีบริการที่ครอบคลุมทุกสิทธิ อาทิ ให้คำปรึกษาและตรวจหาติดเชื้อเอชไอวีโดยสมัครใจ , บริการยาต้านไวรัสเพื่อป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวี (ยา PrEP) , บริการป้องกันการติดเชื้อหลังสัมผัสเชื้อเอชไอวี (ยา PEP) , บริการให้คำปรึกษาและการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีโดยสมัครใจ , บริการรักษาและให้คำปรึกษาแก่ผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ที่มารับบริการติดตามการรักษาที่หน่วยบริการ , บริการถุงยางอนามัยสำหรับผู้ที่เข้ารับคำปรึกษา ตรวจหาเชื้อ ติดตามการรักษา และบริการตรวจคัดกรองและตรวจยืนยันไวรัสตับอักเสบซีในผู้ติดเชื้อเอชไอวี-เอดส์ ผู้ที่ใช้สารเสพติดด้วยวิธีฉีดที่มารับบริการตรวจหาเชื้อโดยสมัครใจ
"จากสิทธิประโยชน์ ที่ผ่านมามีประชาชนเข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดข้อมูลปีงบประมาณ 2566 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ที่รับยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง 305,527 คน จากเป้าหมาย 299,420 ราย คิดเป็นร้อยละ 102.04 และดูแลกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับบริการส่งเสริมและป้องกันการติดเชื้อฯ 3,372,839 จากเป้าหมาย 3,135,165 คน คิดเป็นร้อยละ 107.58 ปัจจุบันแม้สถานการณ์เอชไอวี/เอดส์จะดีขึ้นมาก แต่การดูแลให้เกิดการเข้าถึงบริการยังเป็นสิ่งจำเป็น นอกจากเรื่องการรักษาและยาต้านไวรัสแล้ว ยังมีบริการตรวจคัดกรอง รับคำปรึกษา ยาต้านไวรัสป้องกันก่อนและหลังรับเชื้อ กรณีผู้ที่ทราบว่าตนเองมีความเสี่ยงก็สามารถเข้ารับบริการได้ภายใต้สิทธิประโยชน์ โดยไม่เสียค่าใช่จ่าย นอกจากเป็นการดูแลสุขภาพตนเองแล้ว ยังเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อด้วย” เลขาธิการ สปสช. กล่าว