กรมวิทย์ฯ เผยผลวิเคราะห์สายพันธุ์ "ไข้หวัดใหญ่" ไทยยังเจอ A(H3N2) มากที่สุด 66% สายพันธุ์ B 19% และ A(H1N1) 14% เผย WHO เลือกสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ของไทย ใช้ผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ปี 2567 สำหรับประเทศทางซีกโลกใต้
เมื่อวันที่ 7 พ.ย. นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่ ว่า ทั่วโลกมักพบการแพร่กระจายของโรคไข้หวัดใหญ่ในเขตซีกโลกเหนือ ระบาดมากในช่วงฤดูหนาว ส่วนซีกโลกใต้ระบาดมากในฤดูฝน โดยพบว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A (H3N2), A (H1N1) และ B เป็นสาเหตุของการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ซึ่งจากผลการวิเคราะห์ลำดับพันธุกรรมของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จากทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 ถึงปัจจุบัน พบ A(H1N1) มีสัดส่วน 56.94% A(H3N2) 95.08% และ B 100% สำหรับประเทศไทยการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยพบไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A(H3N2) มากที่สุดคิดเป็นสัดส่วน 66.42% รองลงมาคือสายพันธุ์ B 19.32% ขณะที่สายพันธุ์ A/H1N1 มีสัดส่วน 14.26% สำหรับสายพันธุ์ B ที่พบในไทยเป็นสายพันธุ์ Victoria ทั้งหมด เช่นเดียวกับที่พบทั่วโลกขณะนี้
ทั้งนี้ จากข้อมูลการวิเคราะห์สายพันธุ์ของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในไทยของศูนย์ไข้หวัดใหญ่แห่งชาติ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ด้วยการประยุกต์ใช้เทคนิค Whole genome sequencing (WGS) วิเคราะห์ลำดับพันธุกรรมทั้งจีโนม และประเมินความสอดคล้องกับสายพันธุ์วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ฉีดให้กับประชาชน พบว่าสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ที่ตรวจพบในไทยมีความสอดคล้องกับสายพันธุ์วัคซีนที่ฉีดและสามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ ซึ่งจากการประชุมคัดเลือกสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ เพื่อนำไปใช้ผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ประจำปี 2567 สำหรับประเทศทางซีกโลกใต้ ระหว่างวันที่ 25-28 ก.ย. 2566 ณ กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส โดยผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก (WHO) สมาชิกห้องปฏิบัติการเครือข่ายทั่วโลก และบริษัทผู้ผลิตวัคซีนได้คัดเลือก สายพันธุ์เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ โดย 1 ใน 3 สายพันธุ์ เป็นเชื้อที่แยกได้จากระบบเฝ้าระวังเฉพาะพื้นที่ของประเทศไทย
“จากการที่สายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ที่ตรวจพบในไทย ได้รับคัดเลือกให้เป็นองค์ประกอบในวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ประจำปี 2567 เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือและบทบาทที่เข้มแข็งของ สธ.ไทย ที่มีต่อความมั่นคงทางสุขภาพของประชากรโลก เป็นเป้าหมายสำคัญของระบบสาธารณสุข ที่ต้องการให้การควบคุมและป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถควบคุมการแพร่ระบาดและลดอัตราการป่วย การเสียชีวิตของประชากรไทยและประชากรโลก” นพ.ยงยศ กล่าว
