xs
xsm
sm
md
lg

เตือน "บุหรี่ไฟฟ้า" ก่อสารพัดโรคในเด็ก ทั้งคนสูบ คนรอบข้าง ไปถึงเป็นบุหรี่มือสาม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รพ.เด็ก เตือน "บุหรี่ไฟฟ้า" นิโคตินสูงเท่าบุหรี่ 20 มวน ส่งผลกระทบสุขภาพเด็กอื้อ ทั้งระบบหายใจ ทำระคายเคือง ไอ เหนื่อยง่าย เสี่ยงปอดอุดกั้นเรื้อรัง มะเร็ง เซลล์สมองถูกทำลาย อันตรายทั้งตัวผู้สูบ คนรอบข้าง กลายเป็นบุหรี่มือสาม

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากนโยบายของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข เรื่องยาเสพติด ได้มอบให้กรมการแพทย์ให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ ประชาชน สร้างความรอบรู้ Health literacy โดยเฉพาะปัจจุบันนี้ "บุหรี่ไฟฟ้า" กำลังระบาดในกลุ่มของวัยรุ่น เด็กวัยเรียน ที่อาจได้รับอิทธิพลของการปรับปรุงรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ กลิ่น รสชาติของบุหรี่ไฟฟ้าที่กระตุ้นความอยากรู้อยากลองในเด็ก ซึ่งเด็กขาดการไตร่ตรองที่เหมาะสม และเผลอทดลองตามความคึกคะนอง จนส่งผลทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพตามมา และมีแนวโน้มที่เด็กจะได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากโทษของบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น

นพ.อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผอ.สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์สูบบุหรี่ชนิดหนึ่ง ทำให้น้ำยาในบุหรี่ไฟฟ้าเป็นไอระเหยด้วยความร้อน สารนิโคตินเป็นสารเสพติดที่เป็นส่วนผสมในน้ำยาของบุหรี่ไฟฟ้า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าอาจทำให้ติดสารนิโคตินได้ พบว่า บุหรี่ไฟฟ้าหนึ่งแท่งมีปริมาณนิโคตินเท่ากับบุหรี่ทั่วไป 20 มวน ส่วนใหญ่กลุ่มผู้สูบจะมีอายุ 15 – 24 ปี สารนิโคตินก่อให้เกิดโทษส่งผลต่อสุขภาพของเด็กที่สูบ ได้แก่ ระบบการหายใจ จะเกิดการระคายเคือง ไอ เหนื่อยง่าย มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หลอดลมอักเสบ โรคมะเร็ง ระบบหลอดเลือดและหัวใจ ภาวะหลอดเลือดแข็ง จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ โรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ระบบประสาทและสมอง เซลล์สมองถูกทำลาย อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ ความจำลดลง เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง ระบบทางเดินอาหารทำให้เกิดแผลในกระเพาะ คลื่นไส้ อาหารไม่ย่อย กรดไหลย้อนและอาจนำไปสู่โรคมะเร็ง

"ไอระเหยนี้มีสารก่อมะเร็งที่ไม่ได้เป็นอันตรายแค่ตัวผู้สูบ แต่เป็นอันตรายต่อผู้ที่อยู่รอบข้างด้วย เมื่อสูดดมเข้าไป สารนิโคตินจะส่งผลในระยะยาวต่อการพัฒนาสมองระบบประสาทและหน่วยความจำ โดยเฉพาะในเด็กและวัยรุ่น และการได้รับนิโคตินในสตรีมีครรภ์ อาจส่งผลต่อการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ นอกจากนี้ สารพิษอาจตกค้างตามเส้นผม ผิวหนัง เสื้อผ้า เป็นบุหรี่มือสามอาจเกิดอาการผิวหนังอักเสบได้ เพื่อป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าของบุตรหลาน ขอพ่อแม่ผู้ปกครองและครูที่โรงเรียน หมั่นช่วยกันสอดส่องดูแล สังเกตพฤติกรรม เฝ้าระวังการเข้าถึงและการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็ก เตือนถึงโทษภัยจากบุหรี่ไฟฟ้า เป็นตัวอย่างที่ดีโดยไม่สูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้า เข้มงวดให้บ้านและสถานศึกษาเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า" นพ.อัครฐานกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น