ชมรม นพ.สสจ. คัดค้านโอนย้ายบุคลากร 5 หน่วยงาน สธ.ไปท้องถิ่น ทั้ง สสจ. สสอ. รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป รพ.ชุมชน ขอ ก.ก.ถ.ทบทวนแนวทางหรือตีความให้ชัดเจน เหตุไม่ใช่ส่วนงานปฐมภูมิตามเงื่อนไขการกระจายอำนาจ หากให้โอนย้ายจะเกิดปัญหาบุคลากรไม่เพียงพอ ในระบบบริการ รพ.ระดับทุติยภูมิและตติยภูมิ ส่งผลต่อการดูแลผู้ป่วย
เมื่อวันที่ 31 ต.ค. นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) เชียงใหม่ ในฐานะประธานชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด กล่าวถึงกรณีคณะอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุขให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีมติให้บุคลากรจาก 5 หน่วยงาน คือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป และ รพ.ชุมชน สามารถถ่ายโอนไปท้องถิ่นได้ ว่า จากการประชุมของชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เห็นตรงกันว่าไม่ควรให้มีการโอนบุคลากรจาก 5 หน่วยงานไปยัง อบจ. และจะมีการออกแถลงการณ์คัดค้านเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ ชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมีจุดยืนสนับสนุนการถ่ายโอนภารกิจการจัดบริการปฐมภูมิ ที่เป็นไปตามแผนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 ซึ่งกำหนดขั้นตอนการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยฯ และ รพ.สต.ที่เป็นส่วนงานปฐมภูมิให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมุ่งหวังว่าจะส่งผลให้ประชาชนได้รับบริการอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ
"แต่การถ่ายโอนภารกิจที่ผ่านมา พบว่ามีบุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานใน 5 หน่วยงาน แจ้งความจำนงขอถ่ายโอนไปพร้อมกับการถ่ายโอนบุคลากรของสถานีอนามัยฯ รพ.สต.ด้วย โดยที่ยังไม่มีการกำหนดขอบเขต หรือวิธีการถ่ายโอนที่ชัดเจนในบุคลากรกลุ่มดังกล่าว ซึ่งนอกจากไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของแผนการกระจายอำนาจฯ แล้ว ยังส่งผลกระทบทั้งการบริหารของหน่วยงานในพื้นที่ และการดูแลประชาชน" นพ.จตุชัยกล่าว
นพ.จตุชัยกล่าวว่า การโอนบุคลากรที่ปฏิบัติงานใน 5 หน่วยงาน ทำให้หน่วยงานด้านการบริหาร คือ สสจ. และ สสอ. ขาดบุคลากรที่มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์นโยบายเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ รวมถึงการควบคุมกำกับการดำเนินงานของหน่วยบริการในพื้นที่ให้เป็นไปตามนโยบายที่สำคัญ ส่วนหน่วยบริการ ตั้งแต่ รพ.ชุมชนขึ้นไป จะยิ่งซ้ำเติมปัญขาดแคลนบุคลากรในการให้บริการมากขึ้น ทำให้ผู้ป่วยนอกที่มารับบริการตรวจรักษา ตรวจตามนัด ต้องรอคอยนานขึ้นและแออัดมากขึ้นขณะที่ผู้ป่วยในจะขาดบุคลากรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมาดูแล เช่น ผู้ป่วยหนักใน ICU ผู้ป่วยที่รับการผ่าตัด ต้องรอคิวผ่าตัดนานขึ้น เนื่องจากขาดพยาบาลผู้ช่วยผ่าตัด เป็นต้น ดังนั้น ขอเสนอให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ก.ก.ถ.) ทบทวนแนวทางหรือตีความการโอนบุคลากรที่ปฏิบัติงานใน 5 หน่วยงานดังกล่าว โดยพิจารณาตามหลักการและเหตุผลของกฎหมาย และที่สำคัญป้องกันมิให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนที่เข้ารับบริการใน รพ.ระดับทุติยภูมิและตติยภูมิ