ชมรม รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป ออกแถลงการณ์ คัดค้านการโอนย้ายบุคลากร 5 หน่วยงาน ทั้ง สสจ. สสอ. รพ.ชุมชน รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป ไปยัง รพ.สต.ที่ถ่ายโอนไป อบจ. เหตุกระทบงานดูแลรักษาระดับทุติยภูมิ ตติยภูมิที่คนไม่เพียงพออยู่แล้ว ผู้ป่วยต้องรอคิวนานขึ้น
เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป โดย นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ลงนามออกแถลงการณ์เรื่อง คัดค้านการโอนบุคลากรจาก 5 หน่วยงาน ไป รพ.สต. หรือ สอน.เฉลิมพระเกียรติ ที่ถ่ายโอนไป อบจ. ว่า ชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป สนับสนุนการถ่ายโอนภารกิจด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (ปฐมภูมิ) ของ รพ.สต.ไปยัง อบจ.โดยที่จําเป็นต้องมีการโอนสถานที่ ครุภัณฑ์ รวมถึงบุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านปฐมภูมิไปด้วย เพื่อมิให้กระทบการบริการด้านปฐมภูมิแก่ประชาชน แต่พบว่ามีปัญหาในทางปฏิบัติ ประเด็นการขอโอนของบุคลากรจาก 5 หน่วยงาน (สํานักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สํานักงานสาธารณสุขอําเภอ รพ.ชุมชน รพ.ทั่วไป และ รพ.ศูนย์) ที่เกิดจากการตีความของประธานอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุขให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยไม่รอคําวินิจฉัยจากคณะกรรมการการกระจายอํานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยไม่รับฟังข้อทักท้วงจากอนุกรรมการฯ
ข้อเท็จจริง บุคลากรจาก 5 หน่วยงานดังกล่าว โดยเฉพาะ รพ.ทุกระดับ ปฏิบัติงานด้านทุติยภูมิและตติยภูมิเกือบทั้งหมด ได้แก่ การรักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน ผู้ป่วยคลอด ผู้ป่วยหนักที่ต้องใช้เครื่องมือแพทย์ชั้นสูง ผู้ป่วยที่จําเป็นต้องผ่าตัด ฟอกเลือดล้างไต เป็นต้น ซึ่งบุคลากรเหล่านี้ เช่น พยาบาลวิชาชีพ จําเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติม 4 เดือน ถึง 1 ปีเป็นอย่างน้อย และได้ปฏิบัติงานอีกหลายปีจึงมีความเชี่ยวชาญ จนสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างปลอดภัยและมีคุณภาพมาตรฐาน การโอนบุคลากรกลุ่มนี้ไปเพิ่อปฏิบัติงานด้านปฐมภูมิ เป็นผลดีต่องานปฐมภูมิบ้าง แต่จะทําให้เกิดปัญหาใหญ่ที่กระทบต่อการดูแลประชาชนที่เจ็บป่วยต้องรักษาใน รพ.ต่างๆ จะขาดแคลนบุคลากรอย่างหนัก ซ้ำเติมปัญหาเดิมเมื่อบุคลากรกลุ่มนี้ขาดแคลน ผู้ป่วยนอกที่แออัดอยู่แล้ว ต้องรอคอยนานขึ้น ผู้ป่วยในไม่สามารถได้รับการดูแลเพียงพอ ผู้ป่วยหนักใน ICU จะขาดพยาบาลที่เชี่ยวชาญดูแล ผู้ป่วยรอคอยผ่าตัดนานขึ้น เพราะขาดพยาบาลช่วยผ่าตัด เป็นต้น
ชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปเห็นว่า การโอนบุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านทุติยภูมิ ตติยภูมิที่ขาดแคลนมากอยู่แล้ว ไปทํางานด้านปฐมภูมินั้นไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการสร้างปัญหาใหญ่หลวงต่อประชาชน จึงขอเสนอให้คณะกรรมการการกระจายอํานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตีความปัญหานี้ โดยพิจารณาจากหลักการ เหตุผล และป้องกันมิให้เกิดผลกระทบต่อทั้งประชาชนที่ยังไม่ป่วย (งานปฐมภูมิ) และประชาชนที่เจ็บป่วยรอการรักษาใน รพ. (งานทุติยภูมิ ตติยภูมิ)