สบส.ย้ำ อสม.ยังอยู่กับ สธ. แม้ รพ.สต.ถ่ายโอนไปแล้ว มอบ สสอ.เป็นหน่วยรับรองการปฎิบัติงาน อสม. ทั่วประเทศแทน รพ.สต.
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) กล่าวถึงกรณีการถ่ายโอน รพ.สต.ไปยัง อบจ. จะมีผลต่อ อสม.ที่หลายคนถามว่าต้องย้ายตามด้วยหรือไม่ ว่า อสม.ยังคงปฏิบัติงานภายใต้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เช่นเดิม ไม่ว่าพื้นที่นั้นจะมีการถ่ายโอน รพ.สต.ไป อบจ.หรือไม่ก็ตาม เนื่องจากการทำงานของ อสม. ยังเป็นไปตามนโยบาย สธ. ในการดูแลสุขภาพปฐมภูมิ แม้จะต้องทำงานร่วมกับ รพ.สต.ในพื้นที่ถ่ายโอนก็สามารถปฏิบัติได้ ไม่มีปัญหา เพราะเป้าหมายต้องยึดประชาชนเป็นสำคัญ อย่าง สะ. มีนโยบายส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้ อสม.ทำงานมาตลอด เช่น การคัดกรองผู้สูงอายุ เป็นต้น
นพ.สุระ กล่าวว่า การทำงานของ อสม.เป็นไปตามนโยบาย สธ. และ อสม.อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) จากเดิมที่ รพ.สต.จะเป็นผู้รับรองการปฏิบัติงานของ อสม. แต่ด้วย รพ.สต.มีภารกิจมาก การดูแลส่งเสริมสุขภาพ รับผิดชอบคนไข้ต่างๆ อีกทั้ง เพื่อเป็นการลดขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินค่าป่วยการของ อสม. กรมฯ จึงมีการปรับเปลี่ยนและออกประกาศให้ สสอ. เป็นหน่วยรับรองการปฎิบัติงานของอสม. ซึ่งประกาศนี้มีการดำเนินการใช้แล้ว อย่างไรก็ตาม สสอ.เป็นผู้รับหน้าที่รับรอง ทำการอบรม อสม. แทน ซึ่งมีผลทั้งประเทศ ไม่ได้เฉพาะแค่ถ่ายโอนเท่านั้น และไม่กระทบงาน อสม.ที่ทำงานกับ รพ.สต.แม้ถ่ายโอนแล้ว
ถามความคืบหน้าการดำเนินการเพิ่มค่าป่วยการ อสม.จาก 1 พันบาท เป็น 2 พันบาท ว่า หลังจากผ่านมติ ครม.ในการเพิ่มค่าป่วยการให้แก่ อสม. จำนวน 2 พันบาทต่อคนต่อเดือนนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของ พ.ร.บ.งบประมาณ ส่วนก่อนหน้านี้ที่รับงบช่วงโควิด 500 บาทต่อเดือน เมื่อโควิดจบ ก็สิ้นสุดการเบิกจ่ายงบดังกล่าว แต่กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการเพิ่มงบค่าป่วยการเป็น 2,000 บาท ตามมติครม.ที่ผ่านมา