รองศาสตราจารย์ ดร. แพทย์หญิงจิตติมา ฐิตวัฒน์ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล
ในผู้สูงอายุเกิดปัญหาผิวแห้งได้ง่าย เมื่ออายุมากขึ้นความมันน้อยลง เซลล์ผิวหนังมีขนาดที่เล็กลง ทำให้ผิวแห้งได้ง่าย ปัญหาผิวแห้งในผู้สูงอายุเกิดจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1. อายุ ผู้สูงอายุจะมีฮอร์โมนลดลง การผลิตไขมันที่ผิวหนังลดลงไปด้วย 2. โรคประจำตัว หรือยาที่กินเป็นประจำ หากมีโรคประจำตัว เช่น โรคไต หรือผู้สูงอายุมีการดูดซึมสารอาหารไม่ดี ทำให้ขาดธาตุสังกะสีหรือวิตามินและเกลือแร่ที่จำเป็น รวมถึงยาที่กินประจำ เช่น ยาขับปัสสาวะในโรคความดันโลหิตสูง ทำให้ผิวขาดน้ำ หรือยาลดไขมันสำหรับผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง ซึ่งอาจทำให้ไขมันที่ผิวหนังลดลงด้วย 3. อากาศ อากาศที่มีความชื้นต่ำ อากาศแห้ง ทำให้ผิวแห้งได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลให้ผู้สูงอายุผิวแห้ง เช่น การอาบน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน แช่น้ำนาน หรือฟอกสบู่หลายครั้ง ฟอกสบู่นาน หลังฟอกจะรู้สึกว่าผิวแห้งกว่าเดิม และการไม่ได้ทาครีมหรือโลชั่นบำรุงผิว ผู้สูงอายุจะมีอาการคันง่ายกว่าคนปกติเพราะผิวแห้ง และเป็นผื่นผิวหนังอักเสบได้ง่าย ความสามารถในการต่อต้านเชื้อโรคน้อยลง เมื่อคัน ก็เกา ผิวหนังจึงเป็นแผล ทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนัง หรือบางคนเป็นโรคเบาหวานด้วย จึงทำให้เกิดแผลติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
โรคผิวหนังที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ ได้แก่ ฝ้า กระ เกิดจากพันธุกรรม อายุเพิ่มขึ้น และแสงแดด กระเนื้อมีลักษณะตุ่มนูนสีน้ำตาล เกิดกับผู้สูงอายุตามบริเวณที่โดนแสงสะสม เช่น บริเวณใบหน้า แขน ขา หากผิวหนังโดนแสงแดดเป็นระยะเวลานานก็มีโอกาสเกิดมะเร็งผิวหนังได้ โรคอื่นๆ ได้แก่ โรคตุ่มน้ำพองใส เป็นโรคที่มีภูมิคุ้มกันต่อต้านเซลล์ผิวหนังของตัวเอง ร่างกายเห็นเซลล์ผิวหนังเป็นสิ่งแปลกปลอม มีการทำลายเกิดขึ้น โรคติดเชื้อที่พบเพิ่มขึ้น คือ โรคงูสวัด เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นเชื้อชนิดเดียวกับโรคอีสุกอีใสที่เป็นตอนเด็ก เชื้อไวรัสอีสุกอีใสซ่อนอยู่ที่ปมประสาท เมื่อภูมิคุ้มกันโรคลดลงตามอายุ ทำให้เชื้อเดิมออกมา เกิดโรคงูสวัดเป็นตุ่มน้ำใสบนผิวหนังตามแนวเส้นประสาทที่เชื้อนั้นซ่อนอยู่
ดังนั้น ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในห้องปรับอากาศ ควรเปิดพัดลม ใช้โลชั่นหลังอาบน้ำอย่างสม่ำเสมอ หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น ใช้น้ำธรรมดา และใช้สบู่แต่น้อย สบู่ทั่วไปมักทำให้ผิวแห้ง อาจใช้สบู่เด็ก สบู่เหลว หรือ สบู่ไร้ฟอง หรือ สารทำความสะอาด ผิวหนังในแต่ละส่วนของร่างกายจะแห้งไม่เท่ากัน อาจจะฟอกสบู่เฉพาะบริเวณรักแร้ ขาหนีบ ถ้าผิวแห้งมากควรใช้สารเคลือบผิว ซึ่งมีให้เลือกหลายชนิด ได้แก่ โลชั่น ครีม เซรั่ม น้ำมัน ขี้ผึ้ง สารที่มีลักษณะหนืดเหนียวกว่าจะอยู่ทนกว่า แต่มีข้อเสียคือ คนไม่ชอบใช้ เพราะประเทศไทยเป็นเมืองร้อน โลชั่นหรือเจลบำรุงผิวน่าจะเหมาะกว่า นอกจากนี้ เรื่องของโภชนาการก็มีความสำคัญ ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด ไม่อดนอน
ดังนั้น การดูแลผิวหนังควรดูแลตั้งแต่อายุน้อย พยายามหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด เพราะแสงแดดจะทำให้แก่เร็ว เกิดรอยเหี่ยวย่น ฝ้า กระ ควรป้องกันโดยการใช้ครีมกันแดด เสื้อคลุม กางร่ม หรือโดนแสงแดดให้น้อยที่สุด ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าการหลีกเลี่ยงแสงแดดทำให้ขาดวิตามินดี แต่สำหรับในประเทศไทยมีแสงแดดมากพอสมควรที่จะไม่เกิดปัญหานี้ หากกังวลมากอาจกินวิตามินดีเสริม การมีภูมิคุ้มกันที่ดี ผิวหนังจะสวยสมวัยและร่างกายแข็งแรงห่างไกลจากโรคต่างๆ