สธ.เผย ยังมี "น้ำท่วม" ใน 8 ลุ่มน้ำ 12 จังหวัด ห่วง “กาฬสินธุ์-อุบลราชธานี” ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้น "พะเยา" น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ เสียชีวิต 5 ราย กำชับ 9 จังหวัดเสี่ยงเข้มติดตามสถานการณ์ ส่วนจังหวัดน้ำลดให้สำรวจความเสียหาย เฝ้าระวังโรคจากน้ำท่วมและผลกระทบทางจิตใจประชาชน
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า กองสาธารณสุขฉุกเฉิน สำนักงานปลัด สธ.ได้รายงานสถานการณ์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. - 16 ต.ค. 2566 ยังมีสถานการณ์ใน 8 ลุ่มน้ำ รวม 12 จังหวัด ได้แก่ ลุ่มน้ำป่าสัก เพชรบูรณ์, ลุ่มน้ำน่าน พิษณุโลก, ลุ่มน้ำชี ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์, ลุ่มน้ำมูล อุบลราชธานี, ลุ่มน้ำบางปะกง ฉะเชิงเทรา, ลุ่มน้ำเจ้าพระยา พระนครศรีอยุธยา นครปฐม อ่างทอง , ลุ่มน้ำยม พะเยา สุโขทัย และภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนบน คือ นครศรีธรรมราช โดยพื้นที่ที่น่าเป็นห่วง คือ กาฬสินธุ์ และอุบลราชธานี เนื่องจากระดับน้ำยังเพิ่มขึ้น ขณะที่พะเยา เมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา มีฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากและดินสไลด์ ในพื้นที่ ต.หนองหล่ม อ.ดอกคำใต้ และ ต.สระ อ.เชียงม่วน ทำให้มีประชาชนเสียชีวิต 5 ราย ได้ส่งทีม MCATT ในพื้นที่ติดตามเยียวยาจิตใจญาติผู้เสียชีวิตอย่างใกล้ชิดแล้ว ภาพรวมมีผู้เสียชีวิตสะสม 23 ราย ผู้บาดเจ็บ 33 ราย มีการตั้งจุดอพยพรวม 35 แห่ง
นพ.ชลน่านกล่าวว่า สำหรับสถานบริการสาธารณสุข พบว่าได้รับผลกระทบรวม 27 แห่ง แบ่งเป็น สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ 1 แห่ง รพ. 2 แห่ง รพ.สต. 23 แห่ง และหน่วยบริการปฐมภูมิ (PCU) อีก 1 แห่ง สามารถเปิดให้บริการได้ปกติ 26 แห่ง ยังต้องปิดบริการ 1 แห่ง คือ รพ.สต.บ้านดอนยานาง จ.กาฬสินธุ์ อย่างไรก็ตาม สถานบริการยังจัดทีมแพทย์และสาธารณสุขดูแลประชาชนและผู้ป่วยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง
จำนวน 118 ทีม ให้บริการเยี่ยมบ้าน 6,082 ราย รับยา 8,579 ราย ให้สุขศึกษา 6,499 ราย ตรวจรักษา 1,609 ราย และส่งรักษาต่อ 1 ราย โดย 5 โรคที่พบมากที่สุด ได้แก่ น้ำกัดเท้า 4,277 ราย ระบบผิวหนัง เช่น แพ้ ผื่นคัน 1,600 ราย ระบบทางเดินหายใจ 865 ราย ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ 505 ราย และระบบทางเดินอาหาร 280 ราย ส่วนการให้บริการด้านสุขภาพจิตสะสม 4,211 ราย พบมีความเครียดและได้รับการดูแล 458 ราย
ทั้งนี้ สธ.ได้สนับสนุนยาและเวชภัณฑ์จากส่วนกลาง เป็นยาชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย 8 รายการ จำนวน 12,480 ชุด ขณะที่สำนักงานป้องกันและควบคุมโรค สนับสนุนยาสามัญประจำบ้าน 1,634 ชุด รองเท้าบูท 1,038 คู่ ชุดเวชภัณฑ์ผู้ประสบภัย 825 ชุด และยากันยุง 1,000 ชุด พร้อมกันนี้ ได้กำชับให้จังหวัดเสี่ยงติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อเนื่อง ทั้งพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขังระยะสั้น รวมถึงพื้นที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง โดยจังหวัดที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดมี 9 จังหวัด คือ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ เพชรบูรณ์ ลพบุรี พิษณุโลก อุตรดิตถ์ พิจิตร นครสวรรค์ และพระนครศรีอยุธยา
ส่วนพื้นที่ที่ระดับน้ำเริ่มลดแล้ว ให้เร่งสำรวจประเมินความเสียหายของสถานพยาบาล เฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพจากน้ำท่วมขัง เช่น อุจจาระร่วง โรคฉี่หนู โรคน้ำกัดเท้า โรคผิวหนังจากเชื้อรา เป็นต้น และเฝ้าระวังฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ได้รับผลกระทบ เช่น โรคเครียดหลังเผชิญเหตุการณ์รุนแรง (PTSD) ภาวะเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า เป็นต้น