แพทย์เตือนเลี้ยงลูกด้วยแท็บเล็ต-สมาร์ทโฟน ก่อปัญหาสายตาให้ลูก ส่อทำปวหัว หวดตา ตาแห้ง เคืองตา ตามัว สายตาสั้นก่อนวัย แสงสีฟ้าทำนอนหลับยากขึ้น แนะเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี ไม่ควรให้ใช้หน้าจอเลย อายุ 1-2 ปี ใช้ได้เล็กน้อย 3-4 ปีไม่เกิน 1 ชม.ต่อวัน 5 ปีขึ้นไปไม่เกิน 2 ชม.
เมื่อวันที่ 5 ต.ค. นพ.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ทั้งยังนิยมใช้เป็นสื่อในการเพิ่มทักษะต่างๆ ให้แก่เด็ก ซึ่งการใช้อุปกรณ์เหล่านี้มีข้อแนะนำเพื่อไม่ให้เด็กเกิดปัญหาที่จะตามมา ยิ่งหากแบ่งเวลาการทำงานหรือเวลาเรียนออนไลน์ไม่เหมาะสม ก็จะส่งผลต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะดวงตาที่ต้องรับภาระจากการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือจอมือถือเป็นเวลานานๆ จึงอาจเป็นปัญหาต่อดวงตา เช่น อาการปวดศีรษะ ปวดตา ตาแห้งเคืองตา และตามัว สายตาสั้นก่อนวัย รวมถึงภาวะจิตสังคมขาดสายใยผูกพันระหว่างคนในครอบครัวได้ ทั้งนี้ หากเกิดอาการเหล่านี้ต่อดวงตาจากการใช้อุปกรณ์เหล่านี้ ควรพบจักษุแพทย์
นพ.อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผอ.รพ.เมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวว่า ผู้ปกครองบางส่วนนิยมใช้มารื?โฟน แท็บเล็ต เป็นสื่อหนึ่งในการเพิ่มทักษะต่างๆ ให้แก่เด็ก หรือเพื่อให้เด็กไม่รบกวน โดยอาจขาดความรู้เท่าถึงต่อโทษที่จะตามมา โดยเฉพาะปัญหาสุขภาพตา พบว่า เด็กมักใช้เวลาวันละประมาณ 7 ชั่วโมงไปกับสื่อเอนเตอร์เทน อีกด้านของสติปัญญาการพัฒนาทางอารมณ์และสังคมพบว่า การใช้สื่อต่างๆ เป็นเวลานานส่งผลต่อความตั้งใจเรียนที่โรงเรียนลดลง พฤติกรรมการกินการนอนผิดไปและเกิดโรคอ้วนตามมา ปัญหาทางตาที่พบจากการใช้สื่ออุปกรณ์เหล่านี้ ได้แก่ ปวดศีรษะ ปวดตา ตาแห้งเคืองตา ตามัว และเสี่ยงสายตาสั้นก่อนเวลาอันควร
พญ.พันธราภรณ์ ตั้งธรรมรักษ์ จักษุแพทย์ รพ.เมตตาประชารักษ์ กล่าวว่า อุปกรณ์เหล่านี้ยังมีแสงสีฟ้า ที่มีความกระเจิงแสงทำให้เกิดความไม่สบายตาในการมอง และมีผลต่อการนอนหลับยากขึ้น ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยรองรับว่า แสงสีฟ้าก่อโรคต่อดวงตาชัดเจน เพราะฉะนั้นแว่นตาตัดแสงสีฟ้าอาจจะมีประโยชน์ในแง่ช่วยให้มองภาพสบายตามากขึ้น มีคำถามว่าลูกน้อยควรใช้เวลาหน้าจอเท่าไรต่อวัน แนะนำว่า หากเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 1 ปีไม่ควรใช้เวลาหน้าจอเลย ส่วนเด็กอายุ 1-2 ปี ใช้เวลาหน้าจอเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในช่วงอายุ 3-4 ปี ใช้เวลาหน้าจอไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน และช่วงมากกว่า 5-13 ปีใช้เวลาหน้าจอไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน สำหรับคำแนะนำในการดูแลลูกน้อยในขณะใช้หน้าจอ คือ 1.ควรพักสายตาเมื่อลูกน้อยใช้หน้าจอ โดยใช้หลัก 20-20-20 โดยพักจากหน้าจอทุก 20 นาที พักสายตาโดยมองวัตถุที่ไกลออกไปประมาณ 20 ฟุต และพักเป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาที 2. ปรับแสงสว่างให้เพียงพอ วางหน้าจอคอมพิวเตอร์ห่างประมาณ 25 นิ้ว ปรับหน้าจอ ความเข้ม ความสว่างให้พอดี
3. การใช้น้ำตาเทียม อาจมีประโยชน์สำหรับกรณีมีอาการตาแห้งร่วมด้วย และ 4. ควรพบจักษุแพทย์ หากลูกน้อยมีอาการกระพริบตาบ่อย มองภาพไม่ชัด มีตาเข ปวดศีรษะ ทั้งนี้ เพื่อสุขภาพกายที่ดี ลดความเสี่ยงสายตาสั้น และเพื่อให้เกิดการพัฒนาของสติปัญญา ทางจิตใจ อารมณ์ และสังคมแนะนำให้เด็ก ๆ มีกิจกรรมกลางแจ้งหรืออ่านหนังสือ และที่สำคัญสมองเด็กมีพัฒนาการที่เร็วมากในช่วงอายุ 2-3 ขวบปีแรก จึงควรให้เด็กๆได้เรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่ดีกว่าจอคอมพิวเตอร์ วิธีสังเกตถ้าเด็กในปกครองมีอาการเช่น เด็กอาจจะบ่นปวดตา หรือแสบตา ตาแดง กระพริบตาบ่อย หรือเอามือขยี้ตา ควรรีบพบจักษุแพทย์ทันที