อย.แจง "เส้นก๋วยเตี๋ยว" ใส่วัตถุกันเสียได้ 2 ประเภท ทั้งกรดเบนโซอิกและกรดซอร์บิก ต้องอยู่ในปริมาณที่กำหนดตามกฎหมาย หลังโซเชียลแชร์โพสต์ 3 เส้นเสี่ยงอันตราย ย้ำมีตรวจติดตาม หากใส่สารกันบูดเกินมาตรฐาน มีโทษทั้งจำทั้งปรับ เผย 3 ปี เจอ 9 ตัวอย่าง
เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ภก.เลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีที่มีการโพสต์ผลสำรวจของสถาบันอาหาร ที่พบเส้นก๋วยเตี๋ยวที่พบสารกันบูดมากที่สุด 3 เส้นที่เสี่ยงอันตราย ไม่ควรทานบ่อย ได้แก่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ และเส้นใหญ่ ว่า วัตถุกันเสียที่อนุญาตให้ใช้ในอาหารประเภทเส้น ได้แก่ กรดเบนโซอิก หรือ กรดซอร์บิก โดยกรดเบนโซอิกให้ใช้ได้ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (มก./กก.) ในอาหารประเภทเส้นที่มีการให้ความร้อนในกระบวนการผลิต เช่น การนึ่ง ทั้งที่ผ่านและไม่ผ่านการทำแห้ง รวมถึงเส้นแบบกึ่งสำเร็จรูป ซึ่งจะต้องผ่านวิธีการปรุงก่อนรับประทานอย่างง่าย ๆ และใช้เวลาสั้น เช่น การเติมน้ำร้อน สำหรับกรดซอร์บิกให้ใช้ได้ไม่เกิน 2,000 มก./กก. โดยอนุญาตเฉพาะอาหารประเภทเส้นแบบกึ่งสำเร็จรูป ซึ่งการใช้วัตถุกันเสียเป็นไปตามเงื่อนไขและไม่เกินปริมาณที่อนุญาต ยังคงมีความปลอดภัย
ทั้งนี้ อย. มีการเฝ้าระวังเส้นก๋วยเตี๋ยวและอาหารประเภทเส้น เช่น ขนมจีน บะหมี่ เกี๊ยว สปาเก็ตตี้ ที่จำหน่ายในท้องตลาดมาตลอด โดยปี 2564 - 2566 ผลปรากฏว่าไม่ผ่านมาตรฐาน เพียง 9 ตัวอย่าง ซึ่งผู้ผลิตและผู้จำหน่ายถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว โดยผู้ผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายอาหารประเภทเส้น ใช้วัตถุเจือปนอาหาร (วัตถุกันเสีย) ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และหากพบปริมาณเกินจนอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค จะเข้าข่ายเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือโทษทั้งจำทั้งปรับ
"ผู้บริโภคควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทเส้นแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่มีการแสดงฉลาก และมีเครื่องหมาย อย. ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต หรือผู้นำเข้า น้ำหนักสุทธิ วันเดือนปีที่ผลิต และ ควรบริโภคก่อน หรือหมดอายุ และระบุข้อมูลวัตถุกันเสีย สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทเส้นสด ปกติจะเก็บได้ไม่นาน เมื่อซื้อมาแล้วควรเก็บไว้ในตู้เย็น และหากมีกลิ่นเหม็นหืน เหม็นเปรี้ยว มีจุดสี ไม่ควรรับประทาน" ภก.เลิศชายกล่าว