"สันติ" มอบนโยบายผู้บริหาร สธ. ผลักดันผลิตแพทย์อีก 2.5 หมื่นคน กระจายลง รพ.สต.แห่งละ 3 คน คาดใช้เวลา 12 ปี กว่าจะครบทุกจังหวัด ลงทุนราว 1 แสนกว่าล้านบาท "ชลน่าน" รับจะหารือในคณะกรรมการฯ ชุดนายกฯ ประธาน
เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูง สธ.ครั้งที่ 9/2566 ว่า ในการประชุมผู้บริหารระดับสูง สธ. ตนได้เสนอนโยบายเพิ่มเติมให้ผู้บริหาร สธ.รับทราบ และช่วยผลักดัน คือ ประเด็นพื้นที่ต่างจังหวัด เรามี รพ.สต. มีการจัดตั้งมาหลายปีแล้ว จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีแพทย์ประจำ ในตำบลเหล่านี้มีความใกล้ชิดประชาชนในชนบทอย่างมาก จะสามารถลดต้นทุนการเดินทางไปรักษา ซึ่งเดี๋ยวนี้สิทธิ 30 บาทก็รักษาฟรีทุกโรค รวมถึงมะเร็ง เป็นนโยบายที่ดีเลิศมาหลายสิบปีแล้ว แต่เวลาเข้าถึงบริการไปพบแพทย์ ไปตรวจที่อำเภอ จังหวัดมีความยากลำบาก ใช้ต้นทุนสูงมากในการเดินทาง ต้องจ้างเหมารถไปรอคอย เพราะฉะนั้น เรามี รพ.สต.แต่ยังไม่มีแพทย์ประจำ จึงเสนอในที่ประชุมให้ สธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลิตแพทย์ให้ได้ รพ.สต.ละ 3 คน ซึ่ง รพ.สต.ทั้งประเทศมีประมาณ 8,500 แห่ง หากจะคำนวณก็ประมาณ 2.5 หมื่นคน แม้จะผลิตแพทย์ทันที แต่กว่าจะได้ก็ต้องใช้เวลาผลิต 6 ปี
"การสนับสนุนเงินทุนเรียนแพทย์ คนละประมาณ 4 ล้านกว่าบาท รวมแล้วจะต้องลงทุนประมาณ 1 แสนกว่าล้านบาท และกว่าคนจะจบและกระจายไปทุกจังหวัดก็ปาไป 12 ปี จึงเป็นความจำเป็นที่จะกระจายเรื่องการรักษาพยาบาลลงไปในท้องถิ่นให้จงได้ วันนี้ได้บอกกับผู้บริหารว่านโยบายนี้มีความจำเป็น ให้ผู้บริหารช่วยกัน มันเป็นเรื่องยาก ถ้าเราช่วยกันผลักดัน ปีหนึ่งใช้เงินประมาณหมื่นกว่าล้าน" นายสันติกล่าว
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สธ.เราก็รับข้อเสนอนี้จะนำไปสู่การพูดคุย โดยเฉพาะในเวทีคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ที่จะมีทุกหน่วยทุกฝ่ายเข้ามาตรงนี้ และนำประเด็นตรงนี้ระบบการผลิตที่สอดคล้องเหมาะสมตามที่ท่านเสนอควรจะเป็นไปอย่างไร ก็จะไปหารือในตรงนั้น และสอดรับกับนโยบายการให้บริการปฐมภูมิ ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าจะต้องมีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวเข้าไปดูแล ซึ่งกลไกนี้ถ้าเรายังผลิตแพทย์ไม่ทันก็จะมีการชดเชย ด้วยระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย อาจจะมีเทเลเมดิซีน ซึ่งเทคโนโลยีถึงแล้วคือ Virtual Hospital รพ.เสมือนจริงที่อยู่ในชุมชนและมีแพทย์ด้วย อาจจะเข้ามาทดแทนก่อน