xs
xsm
sm
md
lg

สปสช.ลุยขยาย "เทเลเมดิซีน" ดูแลจิตเวช-ป่วยระยะท้าย ชู รพ.ระนองใช้รักษาคนไข้เรือนจำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สปสช.แจง "เทเลเมดิซีน" ไม่ได้ปฏิเสธไม่ให้แพทย์พบคนไข้ ยันคนรับบริการมีความพอใจ เล็งต่อยอดจากช่วงโควิด ไปยังกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ชู รพ.ระนองใช้เทเลเมดิซีนดูแลผู้ป่วยในเรือนจำ อนาคตจ่อต่อยอดให้ รพ.ชุมชนเทเลกับ รพ.จังหวัดปรึกษาเคสผู้เชี่ยวชาญ บริการจิตเวช ดูแลผู้ป่วยระยะท้าย เชื่อช่วยลดปริมาณงาน รพ. 25% ลดผู้ป่วยนอก 50 ล้านครั้ง

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า เทเลเมดิซีนเป็นหนึ่งในรูปแบบบริการที่ สปสช. พยายามผลักดันให้เกิดขึ้นมาโดยตลอด เพราะมีต้นทุนต่ำเมื่อเทียบกับการเดินทางมา รพ. แต่สามารถดูแลประชาชนได้เป็นวงกว้าง ลดความแออัดใน รพ. ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้ป่วย ช่วงการระบาดของโควิด 19 ได้พิสูจน์แล้วว่า ระบบเทเลเมดิซีนสามารถใช้งานได้จริง รพ.ต่างๆ นำระบบนี้มาดูแลสุขภาพประชาชน ทั้งในส่วนของผู้ป่วยโควิด 19 และผู้ป่วยกลุ่มอื่นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อและไม่เหมาะที่จะมา รพ. ทั้งนี้ ก่อนที่จะนำระบบมาใช้กับคนไข้ จะมีเจ้าหน้าที่ไปเยี่ยมบ้านและตรวจสอบระบบสัญญาณอินเทอร์เน็ตของคนไข้ว่าสามาถรองรับได้หรือไม่ โดยระบบที่นำมาใช้มีทั้ง DMS ของกรมการแพทย์ เฟซไทม์ หรือไลน์ ซึ่งยุคปัจจุบันส่วนใหญ่ทุกบ้านจะมีโทรศัพท์มือถือ ถ้าสัญญาณของคนไข้ไม่ดี ก็อาจจะให้เจ้าหน้าที่รพ.สต.ไปอยู่ที่บ้านคนไข้ในช่วงเวลานัดหมายเพื่อให้แพทย์ได้คุยกับคนไข้


“เทเลเมดิซีนไม่ได้ปฏิเสธไม่ให้แพทย์พบคนไข้ แต่เป็นการมาเสริมสิ่งที่ไม่เคยได้ให้ได้รับมากขึ้น จากที่สปสช.ประเมินการรับบริการเทเลเมดิซีนของคนไข้ พบว่ามีความพึงพอใจมาก เนื่องจากยังได้รับยาอย่างต่อเนื่อง ระหว่างที่รับยาหากต้องการตรวจเลือดสามารตรวจที่ รพ.สต.ใกล้บ้านหรือเจ้าหน้าที่ไปตรวจที่บ้านและส่งมาตรวจที่ รพ. ทำให้รู้ผลเลือดและวิเคราะห์โดยแพทย์สั่งจ่ายยา หรือปรับยาให้ตามผลเลือดหรืออาการที่เกิดขึ้น แต่ถ้าผู้ป่วยจำเป็นต้องตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมหรือมานอน รพ.ก็จะมีรถไปรับผู้ป่วย” นพ.จเด็จกล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวว่า สปสช.มีการต่อยอดด้วยการขยายกลุ่มโรคให้ผู้ให้บริการเทเลเมดิซีน จากเดิมที่รักษาเฉพาะผู้ป่วยโควิด 19 มาวางแนวทางในการขยายการดูแลไปสู่กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังในอนาคต ส่วนของ รพ.ระนองที่เราลงพื้นที่ การให้บริการผ่านเทเลเมดิซีนถือเป็นจุดเด่นในการให้บริการผู้ป่วยในเรือนจำ และพื้นที่ห่างไกล บนเกาะต่างๆ โดยทุกแผนกพยายามเพิ่มการเข้าถึงบริการของผู้ป่วย โดยการใช้เทเลเมดิซีนถึงบ้านในผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการได้ นอกจากนี้ จะมีการขยายต่อคือการทำระบบเทเลเชื่อมต่อกับ รพ.ชุมชน เพื่อที่ใช้ในกรณีที่หากมีผู้ป่วยนอนอยู่ใน รพ.ชุมชนแล้วต้องการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางที่ รพ.จังหวัดแล้วให้การรักษา โดยที่แพทย์ปลายทางสามารถเห็นผู้ป่วย และสั่งเจาะเลือด ตรวจแล็บ สั่งยาที่จะไปรักษาได้ เป็นโครงการต่อไปที่จะดำเนินการ รวมถึงทิศทางนโยบายต่างๆ เช่น การให้บริการจิตเวชครบวงจร ดูแลผู้ป่วยภาวะท้ายหรือ ชีวภิบาล (palliative care) จะเป็นรูปแบบหนึ่งที่นำเทเลเมดิซีนมาให้บริการได้เช่นกัน โดยสปสช.จะพิจารณากลไกการเบิกเงิน เมื่อรพ.ให้บริการก็จะเก็บข้อมูลและส่งไปเบิกที่ สปสช. แล้วโอนเงินค่าเทเลเมดิซีนให้ รพ.


“เชื่อว่าหากนำมาใช้อย่างเหมาะสม จะช่วยลดปริมาณงานใน รพ.ได้ราว 25% แต่ละปีทั่วประเทศมีผู้มารับบริการ 200 ล้านครั้ง ก็จะลดลงได้ 50 ล้านครั้ง ช่วยลดความแออัดแน่นอน และประชาชนอีก 10 กว่าล้านคนที่ไม่เคยมารับบริการเลย จะได้เข้ามารับบริการ เป็นการยกระดับหลักประกันสุขภาพครั้งใหญ่ เพิ่มการเข้าถึงบริการ”นพ.จเด็จกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น