แพทย์ ม.ขอนแก่น ท้วงกรมบัญชีกลาง ปรับระเบียบใหม่ ทำสิทธิข้าราชการ รักษาเทเลเมดิซีนได้ แต่สุดท้ายต้องมารูดบัตร ปชช.ที่ รพ.ทุกครั้งเพื่อรับยาทางไปรษณีย์ ชี้ไม่ต่างจากมารับยาเอง หากต้องการยืนยันตัวตนควรให้ทำแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่ทุกครั้ง ชี้สวนทางนโยบายรัฐบาล
เมื่อวันที่ 19 ก.ย. นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวถึงการเข้าถึงบริการสุขภาพของสิทธิสวัสดิการข้าราชการ ว่า ขณะนี้รัฐบาลใหม่มีนโยบายสนับสนุนนำดิจิทัลมาใช้ในระบบสาธารณสุข โดยส่งเสริมการรักษาแบบเทเลเมดิซีนให้มากยิ่งขึ้น แต่แนวทางการจัดส่งยาถึงบ้านของสิทธิสวัสดิการข้าราชการ กลับมีการเปลี่ยนแปลงระเบียบ โดยจะไม่สามารถใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2566 ยกเว้นมีการยืนยันตัวตนตามระเบียบใหม่
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า จากเดิมเวลาจะส่งยาถึงบ้าน แพทย์จะประสานกับคนไข้ว่า ยาต่อเนื่องแบบไหนที่ต้องใช้และจำเป็นต้องจัดส่งเพิ่มตามเวลาที่กำหนดที่มีการวินิจฉัยโรค ซึ่งเราก็จะใช้รหัสเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักมาคีย์เข้าสู่ระบบ และทำการเรียกเบิกจ่ายจากกรมบัญชีกลาง แต่ระเบียบใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ระบุว่า การจะจัดส่งยาทางไปรษณีย์ต้องให้ผู้ป่วยรายนั้น นำบัตรประชาชนมาสแกนรูดบัตรที่ รพ.ต้นทางทุกครั้งที่จะจัดส่งยา ซึ่งหมายความว่าก็ไม่ได้รับยาที่บ้าน เพราะผู้ป่วยต้องมาที่ รพ.เอง กลายเป็นว่าได้แค่ตรวจวินิจฉัยผ่านเทเลเมดิซีน แต่คนไข้ก็ต้องเดินทางมาเองอยู่ดี
“เรื่องนี้แปลกมาก ที่แต่ละหน่วยงานมีเป้าหมายกันคนละอย่าง เพราะหากเรามีเป้าหมายที่ต้องการให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายในการรักษา การใช้เทเลเมดิซีนย่อมมีประโยชน์ เมื่อวินิจฉัยผ่านเทเลฯ แล้วก็ต้องส่งยาทางไปรษณีย์ หรือส่งยาไปที่ร้านยาใกล้บ้านผู้ป่วย ไม่ใช่ให้ผู้ป่วยมารูดบัตรประชาชนถึงรพ.อีก และหากเรากลัวการเบิกจ่ายที่ผิดก็ต้องเข้มงวดกับ รพ.ว่า มีระบบอะไรที่ยืนยันได้ว่า ไม่ใช่เมคข้อมูลเบิกยาอย่างเดียว แต่การออกระเบียบแบบนี้ส่งผลต่อประชาชน” นพ.สมศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่านอกจากให้ผู้มีสิทธิข้าราชการมายืนยันตัวตนที่รพ.เองแล้ว มีทำผ่านแอปพลิเคชันหรือไม่ นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า แอปพลิเคชันมี แต่จะสะดวกกับคนที่สามารถทำเองได้ ปัญหาคือ สิทธิข้าราชการส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ หลายคนทำไม่เป็น ซึ่งจริงๆการใช้แอปฯ มายืนยันตัวเองนั้นแทบไม่ต้องทำ เพราะทุกวันนี้เราสั่งจ่ายยาให้ 3 เดือน 6 เดือนอย่างกลุ่มโรคเรื้อรัง ก็จะมีการใช้บัตรประชาชนและคีย์ข้อมูลให้อยู่แล้ว ส่วนที่จะต้องมา รพ.ก็จะมาเพียงครั้งเดียวแบบจำเป็นจริงๆ เพื่อลดการเดินทาง ซึ่งหากต้องยืนยันที่ รพ.ก็มาช่วงนั้นได้ แต่การปรับระเบียบแบบนี้ค่อนข้างส่งผลกระทบต่อผู้ป่วย
“การใช้แอปฯ สร้างความยุ่งยากกับคนสูงอายุ บางคนเขาไม่ได้มีลูกหลาน จะทำอย่างไร ขณะที่สิทธิบัตรทองกลับไม่มีปัญหา เพราะยืนยันตัวตนผ่าน รพ.ทำให้อยู่แล้ว หรือหากกรมบัญชีกลางต้องการยืนยันตัวตนเอง ก็สามารถให้ผู้ป่วยสิทธิข้าราชการทำได้ตอนมาที่ รพ. ไม่จำเป็นต้องยืนยันทุกครั้งที่จะเบิกยา เพราะถ้าทำแบบนี้การใช้ระบบเทเลเมดิซีนก็ไม่ได้ก่อประโยชน์อย่างเต็มที่” นพ.สมศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีแบบนี้สวนทางกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการใช้ Digital Health อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนหรือไม่ นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ใช่ ซึ่งจริงๆ ตนกำลังติดตามกับทางกรมบัญชีกลางว่า จะมีแนวทางการแก้ปัญหาการยืนยันตัวตนอย่างไร