“สันติ” หนุน สธ.สู้เพิ่มจำนวนบุคลากรสาธารณสุข เพิ่มแพทย์หมุนเวียน รพ.สต. ถ้าเพียงพอเล็งส่งออกโกยรายได้
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวระหว่างประชุมผู้บริหารระดับสูง สธ. เพื่อมอบนโยบายขับเคลื่อนงานว่า ตนเป็นฝ่ายการเมืองที่ได้เข้ามาทำงานใน สธ. ด้วยความตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ และจะทำงานด้วยความรัก ความสามัคคี ความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อให้การทำงานร่วมกันเดินหน้าไปได้อย่างเต็มที่ เพื่อประสิทธิภาพในการดูแลพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ
นายสันติ กล่าวว่า ชื่อของกระทรวงสาธารณสุขก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นกระทรวงที่จะสร้างความสุขให้กับสาธารณชน และก็เป็นสิ่งที่ตนศรัทธามาโดยตลอดกว่า 20 ปีของการทำหน้าที่ ส.ส.ตนได้คลุกคลีกับชาวบ้านในพื้นที่ชนบท และชาวบ้านก็ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ในการเดินทางไป รพ.จำนวนมากมาโดยตลอด แต่ก็ได้มีบุคลากรทางการแพทย์ที่ไปดูแลพี่น้องประชาชนในชนบทอย่างอดทนและเต็มความสามารถ ถือเป็นคุณงามความดี ที่ตนได้รับรู้มาจากชาวบ้านในพื้นที่ และขอชื่นชมบุคลากรของ สธ. ทั้งนี้ ตนผ่านการรับผิดชอบงานมาหลายกระทรวง ทำให้ได้รับรู้ปัญหาของประชาชนที่หลากหลาย ก็จะนำประสบการณ์เหล่านี้มาทำงานเพื่อให้พี่น้องคนไทยอยู่ดีกินดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการแพทย์ของ สธ. ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่จะอำนวยความสุขให้กับประชาชน ละลายความทุกข์
"ผมเห็นใจบุคลากรทางการแพทย์เป็นอย่างมาก ผมมองว่า ถ้าจำนวนแพทย์ยังขาดแคลน ยังไม่เพียงพอ โอกาสที่เราจะใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาก็จะเป็นเรื่องที่ยากลำบาก วันนี้สิ่งที่ผมพูด ก็คือ เราจะทำอย่างไรให้สามารถพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ให้พอเพียงกับระบบสาธารณสุข เพราะหลายรัฐบาลที่ผ่านมาได้ดำริให้มี รพ.สต.แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีแพทย์ประจำ มีแต่แพทย์หมุนเวียนหนึ่งเดือนจะมีแพทย์ไปประจำอยู่สัก 1-2 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าบุคลากรทางการแพทย์ยังขาดแคลนอย่างแสนสาหัส" นายสันติกล่าว
นายสันติกล่าวว่า วันนี้ พอจะเป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะร่วมกันต่อสู้ให้ได้มาซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ที่เหมาะสมแต่ละพื้นที่ เช่นอย่าง 1 รพ.สต.จะมีแพทย์หมุนเวียนประมาณ 3 คน เพื่อที่จะแบ่งเบาภาระในการดูแลประชาชนในพื้นที่ได้อย่างครอบคลุม
นอกจากนี้ สธ.จะปรับให้สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศ เช่น ถ้าประเทศไทยมีบุคลากรทางการแพทย์อย่างพอเพียงแล้ว ซึ่งแพทย์ไทยได้รับการยอมรับอย่างมากจากต่างชาติ เพราะเป็นบุคลากรที่มีทักษะสูง ถ้าเมื่อพอเพียงสำหรับประเทศไทย ก็จะยังสามารถไปทำงานในประเทศแถบตะวันออกกลาง สร้างรายได้จำนวนมากกลับคืนเข้าสู่ประเทศได้ ตนจึงขอให้ผู้บริหารช่วยกันผลักดันให้บุคลากรทางการแพทย์ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพราะจากที่ตนคิดมาจะใช้งบประมาณจำนวนไม่มาก แต่ประโยชน์ที่ได้ถือว่ากำไรหลายเท่าตัว