xs
xsm
sm
md
lg

สธ.เตรียมทำระบบข้อมูลเชื่อม "ปฐมภูมิ" บริการไร้รอยต่อ รับบัตร ปชช.ใบเดียวรักษาทุกที่ รอสรุปตัวเลขถ่ายโอน รพ.สต.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สธ.เตรียมทำระบบข้อมูลเชื่อมโยง "ปฐมภูมิ" บริการไร้รอยต่อ ใช้เทคโนโลยีลดภาระงาน ลดรอคอย พร้อมหารือ อบจ.เชื่อมโยงด้วย ยังไม่สรุปตัวเลขถ่ายโอน รพ.สต.ปีงบ 67 เหตุยังไม่มีรายละเอียดชัด รอประชุม ก.ก.ถ.สรุปอีกครั้ง เร่งรวบรวมตัวเลขส่งมอบวัสดุ ครุภัณฑ์ เสนอ 5 ต.ค.นี้ ประธานอนุกรรมการฯ เผยใครเปลี่ยนใจถ่ายโอนปี 67 ทำไม่ได้ เพราะเกินเวลากำหนด

เมื่อวันที่ 10 ก.ย. นพ.อภิสรรค์ บุญประดับ ผอ.สำนักสนับสนุนระบบสุขภาพปฐมภูมิ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมหน่วยบริการปฐมภูมิให้รองรับการบริการแบบไร้รอยต่อ ว่า ขณะนี้กำลังทำระบบข้อมูล เพราะการจะให้ไร้รอยต่อต้องมีข้อมูลมาสนับสนุน ซึ่งการเตรียมระบบดังกล่าวจะสอดคล้องกับนโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค กรณี “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” จะครอบคลุมการรับบริการหน่วยบริการ หรือ รพ.ระดับปฐมภูมิด้วย โดยจะกำหนดว่า มีบริการอะไรบ้างที่ทำได้ และการให้บริการในหน่วยบริการปฐมภูมิทำอะไรได้บ้าง รวมถึงจะพัฒนาเป็นระบบออนไลน์ เทเลเมดิซีน การนัดคิว ปรึกษาแพทย์ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลระดับปฐมภูมิ จะรวมทุกระดับ ตั้งแต่ รพ.สต. รพ.ชุมชน และการส่งต่อต้องเชื่อมโยงข้อมูลไปยังรพ.ทั่วไป รพ.ศูนย์ด้วย เพื่อให้ทุกอย่างเป็นข้อมูลเดียวกัน ทั้งนี้ ต้องค่อยๆพัฒนา ทำเป็นเฟสๆ

“ตอนนี้อยู่ระหว่างพูดคุยว่า จะจัดบริการอะไรบ้าง แต่เราจะเน้นการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อรองรับการบริการประชาชนให้มากขึ้น ลดเวลาการเดินทาง ลดการรอคอย และการใช้เทคโนโลยีมาช่วยยังลดภาระงานบุคลากร” นพ.อภิสรรค์ กล่าว

เมื่อถามว่ากรณีนี้คือการนำระบบทีมหมอครอบครัวมาใช้ใช่หรือไม่ นพ.อภิสรรค์ กล่าวว่า จริงๆคือระบบหมอครอบครัว เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น และมีระบบเทคโนโลยีมาช่วยหมอครอบครัวทำงาน จากเดิมจะเยี่ยมบ้าน ก็มีระบบข้อมูลมาซัพพอร์ต ประชาชนเข้าถึงบริการง่ายขึ้น

ถามว่าการดำเนินการดังกล่าว เป็นการจัดระบบรองรับป้องกันปัญหาการบริการประชาชนที่ รพ.สต.ถ่ายโอนไปท้องถิ่นหรือไม่ นพ.อภิสรรค์ กล่าวว่า จริงๆ ต้องทำงานร่วมกัน โดยต้องหารือร่วมกับทาง อบจ. เพราะระบบสุขภาพปฐมภูมิต้องเชื่อมโยงทั้งหมด และการส่งต่อก็ต้องเชื่อมข้อมูลรพ.ทุกระดับที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ทุกอย่างต้องหารือและทำข้อมูลแบบบูรณาการ

ถามถึงความคืบหน้าการถ่ายโอนสถานีอนามัยฯ และ รพ.สต. ไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในรอบปีงบประมาณ 2567 ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ นพ.อภิสรรค์ กล่าวว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุขให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางประธานอนุกรรมการฯ ระบุตัวเลขที่จะถ่ายโอนไป โดยระบุเป็นข้อมูลจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) แต่ทาง สธ.เสนอว่า ยังไม่ควรสรุปตัวเลขว่า มีรพ.สต.ถ่ายโอนกว่า 900 แห่ง และบุคลากรอีก 8,000 กว่าคน เนื่องจากไม่มีเอกสารชี้แจงรายละเอียด ว่าถ่ายโอนจากรพ.สต.ไหน รายละเอียดอย่างไร

“เบื้องต้นทางประธานที่ประชุมฯ ได้ลงมติตัวเลขดังกล่าว และจะนำเสนอต่อการประชุมคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ก.ก.ถ.) ชุดใหม่รับรองมติอีกครั้ง เพื่อส่งเรื่องต่อ ครม. ตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวเลขไม่มีข้อมูลประกอบ ทางกระทรวงสาธารณสุขจะมีการทักท้วงในการประชุม ก.ก.ถ.ชุดใหม่เช่นกัน เพื่อให้ทุกอย่างมีข้อมูล เอกสารหลักฐานชัดเจน” นพ.อภิสรรค์กล่าว

เมื่อถามว่าทางประธานคณะอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุขฯ ระบุว่า ขอให้สธ.ส่งมอบวัสดุ ครุภัณฑ์อุปกรณ์ต่างๆให้แล้วเสร็จ นพ.อภิสรรค์ กล่าวว่า ประเด็นการส่งมอบวัสดุ ครุภัณฑ์อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ได้มีปัญหา เพราะในพื้นที่มีการดำเนินการร่วมกันระหว่าง อบจ. กับทาง สสจ. ซึ่งบางพื้นที่ที่ไม่เรียบร้อยกำลังอยู่ระหว่างกระบวนการติดต่อ เช่น บางพื้นที่เช่าก็ต้องเคลียร์ให้แล้วเสร็จ โดยทั้งหมดจะมีการสำรวจว่า ส่งมอบแล้วกี่แห่ง และตรงไหนยังมีปัญหา โดยจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ วันที่ 5 ต.ค. 2566 ต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีก่อนหน้านี้มีบุคลากรที่แจ้งความประสงค์ขอเปลี่ยนใจไม่โอนย้ายรอบใหม่ปีงบฯ2567 มีการดำเนินการอย่างไร นพ.อภิสรรค์ กล่าวว่า มีบางจังหวัดขอเปลี่ยนใจโดยมีหนังสือทางการ ซึ่งอบจ.ได้ทำเรื่องมาว่า ขอไม่รับถ่ายโอน เช่น จ.สุรินทร์ ซึ่งจะไม่มีชื่อในการถ่ายโอนครั้งนี้ แต่กรณีที่เคยแจ้งความประสงค์มากับ สธ.นั้น จากที่มีการประชุมฯ ทางประธานอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุขฯ ระบุว่าเกินกำหนดช่วงเวลายกเลิก จึงต้องดำเนินการตามเดิม แต่กรณีรายชื่อคนที่ขอแจ้งยกเลิกถ่ายโอน จะยังมีรายชื่อในรอบใหม่หรือไม่ ตนบอกไม่ได้ เพราะตอนประชุมไม่มีรายละเอียดอะไร ทราบแต่ตัวเลขเท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น