ปลัด สธ.ห่วงต้น ก.ย.ยังมีมรสุมพาดผ่าน กำชับ รพ.เฝ้าระวังผลกระทบพายุฝน น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคใต้อาจมีฝนตกหนักมาก สั่งเตรียมพร้อมรับมือโรคภัย สำรองยาเวชภัณฑ์ให้พอบริการประชาชน ระบุ 4 วัน เกิดเหตุแล้ว 10 จังหวัด จมน้ำดับ 1 ราย รพ.สต.รับผลกระทบ 1 แห่ง แต่ยังเปิดบริการได้
เมื่อวันที่ 4 ก.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ช่วงนี้ประเทศไทยหลายพื้นที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ประกอบกับน้ำทะเลหนุน ทำให้ช่วงวันที่ 1-4 ก.ย. 2566 มีการรายงานผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่ แพร่ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ลำพูน ชัยภูมิ จันทบุรี ตราด สุราษฎร์ธานี พังา และสตูล รวม 14 อำเภอ 36 ตำบล 146 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบทั้งหมด 1,561 ครัวเรือน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และเสียชีวิตจากการจมน้ำ 1 ราย ใน จ.จันทบุรี อย่างไรก็ตาม สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 8 จังหวัด ยังมีสถานการณ์ใน 2 จังหวัดคือ พังงาและสตูล แต่ระดับน้ำลดลงแล้ว สำหรับสถานบริการสาธารณสุขพบว่าได้รับผลกระทบ 1 แห่ง คือ รพ.สต.สะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด โดยมีน้ำท่วมขังภายในอาคารชั้นล่างสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ทำให้อุปกรณ์ที่วางกับพื้นได้รับความเสียหาย ได้แก่ คอมพิวเตอร์ 4 ชุด ยูนิตทำฟันซึ่งแผงวงจรแช่น้ำ ได้แก้ไขจนขณะนี้สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติแล้ว
นพ.โอภาสกล่าวว่า ได้กำชับให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์และผลกระทบด้านโรคและภัยสุขภาพที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงที่มีฝนตกน้ำท่วม ป้องกันอาคารสถานที่และครุภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบ โดยใช้หลักป้องกัน ยกสูง เคลื่อนย้าย พร้อมทั้งเตรียมจัดบริการทางการแพทย์ สถานที่สำรอง หรือโรงพยาบาลสนามเมื่อจำเป็น และสำรองยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงต่อการให้บริการ เนื่องจากการพยากรณ์อากาศใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออกและภาคใต้
"ช่วงวันที่ 4-6 ก.ย. 2566 ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ด้วย และหากเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถโทรแจ้งสายด่วนฉุกเฉิน 1669 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง" นพ.โอภาสกล่าว