กลุ่ม Nurse Connect รับ พท.คุม สธ.ไม่เห็นภาพนโยบายดูแลบุคลากรสาธารณสุข แต่พร้อมร่วมทำงาน ขอเข้าพบถกแก้ปัญหาชั่วโมงทำงาน ไม่ควรเกิน 60 ชม.ต่อสัปดาห์ ปรับเพิ่มค่าตอบแทน การรักษาคนให้อยู่ในระบบ
เมื่อวันที่ 28 ส.ค. น.ส.สุวิมล นัมคณิสรณ์ ตัวแทนสหภาพพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาล และตัวแทนกลุ่ม Nurses Connect ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแนวโน้ม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะได้มาดูแลกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะ รมว.สธ. ว่า จากการหารือกับกลุ่มสมาชิก ก็มีความรู้สึกผิดหวังที่ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยจะมาดำรงตำแหน่ง รมว.สธ. เนื่องจากพรรคเพื่อไทยเองรวมกับพรรคร่วมรัฐบาลชุดนี้ ถ้าฟังนโยบายช่วงหาเสียงก็เห็นว่าไม่มีนโยบายในการดูแลบุคลากรสาธารณสุข ทำให้ไม่เห็นภาพว่า หากเป็นรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยบุคลากรจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง แต่ก็มีข้อสรุปว่าหากมี รมว.สธ. ชัดเจนแล้ว ก็จะต้องทำงานร่วมกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และต้องมีการเข้ามาพูดคุยกันถึงปัญหาต่างๆ ทั้งชั่วโมงการทำงานของแพทย์ ค่าตอบแทนและสวัสดิการต่างๆ
“ปัญหาของบุคลากรรอไม่ได้ เพราะหากเราสูญเสียกำลังคนมากกว่านี้ ก็จะไม่เหลือคนทำงานในระบบ ก็จะส่งผลกระทบต่อการบริการประชาชน แม้ว่าการจัดตั้งรัฐบาลและตำแหน่ง รมว.สธ. ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคาดหวัง แต่ก็จะต้องนำปัญหาไปพูดคุยกับรัฐบาล เพื่อเร่งแก้ปัญหา ที่ผ่านมาเราได้เข้าไปพูดคุยกับคณะกรรมาธิการด้านแรงงานของพรรคก้าวไกล ถึงข้อเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหา แต่วันนี้ชัดเจนแล้วว่าพรรคก้าวไกลจะต้องไปเป็นฝ่ายค้าน หากเป็นคณะกรรมาธิการชุดเดิมก็จะต้องดำเนินการต่อ ไม่เฉพาะกับพรรคก้าวไกล แต่รวมถึงพรรคการเมืองอื่นอย่างพรรคเพื่อไทย หากมีนโยบายหรือฝ่ายดูแลแรงงานที่อยากพูดคุยกับบุคลากรการแพทย์ เราก็พร้อมจะเข้าไปพูดคุย” น.ส.สุวิมล กล่าว
น.ส.สุวิมล กล่าวว่า ปัญหาของบุคลากรการแพทย์ที่จำเป็นต้องแก้ไขเร่งด่วน คือ 1.ชั่วโมงการทำงานของแพทย์ พยาบาลหรือบุคลากรสาธารณสุข ที่ปัจจุบันทำงานเกิน 80-100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ถือเป็นภาระงานที่หนักและกระทบต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิตของคนทำงาน ตนมองว่าชั่วโมงการทำงานไม่ควรเกิน 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งก็ถือว่ายังเป็นตัวแทนที่ค่อนข้างหนักมากแล้ว 2.ค่าตอบแทนที่แม้จะมีการปรับเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่เพียงพอต่อภาระงาน และ 3.การรักษาบุคลากรให้อยู่ในระบบ ซึ่งตนก็อยากทราบถึงแนวทางการแก้ไขปัญหานี้กับพรรคการเมืองที่จะเข้ามาดูแลกระทรวงฯ
เมื่อถามว่าทางกลุ่มสมาชิกมีแนวทางแก้ไขปัญหาที่อยากเสนอให้พรรคการเมืองพิจารณาหรือไม่ น.ส.สุวิมล กล่าวว่า อยากให้มีการเก็บข้อมูลการทำงานของบุคลากรเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดบุคลากร เพราะการมีตัวเลขการทำงานจริงต่อจำนวนบุคลากรที่ปฏิบัติงานจริงๆ ที่จะต้องแยกออกจากบุคลากรระดับบริหาร จะสะท้อนให้เห็นสถานการณ์ขาดบุคลากรที่แท้จริง เพื่อมาหาวิธีเติมบุคลากรเข้าไป ขณะเดียวกัน ก็จะต้องรักษาบุคลากรที่มีอยู่ในระบบด้วย ซึ่งจะย้อนกลับไปว่าหากค่าตอบแทนเหมาะสม ชั่วโมงการทำงานไม่หนักเกินไป คนก็ยังอยู่ในระบบมากขึ้น
“หากมีนโยบายที่นึกถึงบุคลากร เราต้องคงจะรู้สึกดี รู้สึกว่าเรามีความสำคัญมากขึ้น ระบบการสาธารณสุขที่มีผู้รับบริการเป็นศูนย์กลางแต่ก็อย่าลืมว่าเรามีคนทำงานที่ขูดเลือดขูดเนื้อตัวเองทุกวันเพื่อให้การรักษาผู้ป่วยออกมาดีที่สุด แต่คนกลุ่มนี้ไม่ถูกมองเห็น เราไม่ได้มีปัญหากับนโยบายสุขภาพถ้วนหน้าหรือนโยบายรัฐสวัสดิการที่อาจเพิ่มเป็นภาระงาน เพราะเราพร้อมดูแลประชาชน เพียงแต่เราอยากให้มองเห็นบุคลากร ให้ได้รับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม ได้มีเวิร์กไลฟ์บาลานซ์ (Work-Life Balance) เหมือนอาชีพอื่นๆ บ้าง ขอฝากถึง ครม. ชุดใหม่ ให้เห็นความสำคัญเรื่องนี้ด้วย เพราะหากไม่มีบุคลากรสุขภาพแล้ว นโยบายที่ออกมาดีเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถขับเคลื่อนเพื่อประชาชนได้” น.ส.สุวิมล กล่าว