xs
xsm
sm
md
lg

มอบ สสจ.พิษณุโลก เอาผิด "รองอ๋อง" โพสต์เบียร์ เร่งรวมหลักฐานก่อนเชิญให้ข้อมูล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผอ.สคอ.เผยมอบอำนาจให้ สสจ.พิษณุโลก ดำเนินการตามกฎหมาย "รองอ๋อง" โพสต์เบียร์แล้ว ทางจังหวัดทำหนังสือถึงผู้ว่าฯ สรรพสามิตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาเบื้องต้นเข้าข่ายผิดกฎหมายจริง รอรวบรวมหลักฐานจึงเชิญตัวมาให้ข้อมูล ส่วนเคส "พิธา" ยังก้ำกึ่ง เร่งรวบรวมหลักฐาน เพื่อความชัดเจน

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สคอ.) กรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการดำเนินการทางกฎหมายต่อ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ส.ส.จ.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ที่มีการโพสต์ภาพและข้อความคราฟต์เบียร์ในโซเชียลมีเดีย ว่า ขณะนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) พิษณุโลก จะเป็นผู้ดำเนินการทางกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ตามที่ได้รับมอบอำนาจจากกรมควบคุมโรคไป เนื่องจากก็มีส่วนที่ไปร้องเรียนต่อทางจังหวัดด้วย เมื่อเกิดเหตุการณ์พร้อมหากเราไปทำก็อาจจะซ้ำซ้อนกัน ซึ่งจริงๆ ส่วนงานใดทำก็ได้ ตอนนี้จึงได้มอบหมายให้จังหวัดดำเนินการ ซึ่งทราบว่าทาง สสจ.พิษณุโลกได้ทำหนังสือไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเพื่อให้รับทราบเรื่องนี้ รวมทั้งทำถึงสรรพสามิตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วย ซึ่งได้มีการพิจารณาเบื้องต้นแล้วว่า เข้าข่ายมีความผิดเหมือนที่เราพิจารณา ทางนั้นก็จะดำเนินการขั้นตอนตามกฎหมาย

"พอรวบรวมประจักษ์พยาน หลักบษนที่เกี่ยวข้องเรียบร้อย ก็อาจเชิญตัว ส.ส.คนดังกล่าวไปให้ข้อมูลต่างๆ ก็จะเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย แต่ตรงนี้เป็นการมอบอำนาจไปยังจังหวัดให้เป็นผู้ดำเนินการ แต่ถ้าเมื่อไรจังหวัดคิดว่าเป็นปัญหา ไม่สามารถดำเนินการ เราก็ยินดีเข้าไปร่วมด้วยช่วยทำงานร่วมกันต่อไป" นพ.นิพนธ์กล่าว

ถามถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่เคตยออกมาพูดถึงสุราพื้นบ้านจนขายดีหมดเกลี้ยง แต่อยู่ระหว่างการตีความว่าเข้าข่ายการกระทำผิดหรือไม่ มีความคืบหน้าในการพิจารณาแล้วหรือไม่ นพ.นิพนธ์กล่าวว่า ส่วนนั้นยังก้ำกึ่งบางเรื่อง เพราะต่างกันกับเคสนี้ตรงที่ไม่ได้เห็นตราสินค้า ฉะนั้น จึงมีความเห็นของคณะอนุกรรมการพิจารณาความผิดยังก้ำกึ่งกันอยู่ เบื้องต้นจึงมอบส่วนที่เกี่ยวข้องไปรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อให้มีความชัดเจนว่ามันเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายที่เกีย่วข้องหรือไม่ จึงอาจมีขั้นตอนเรื่องเวลานิดนึง แต่ระยะเวลาที่เกี่ยวข้องถ้าพิจารณามีอายุความเกิน 5 ปี ซึ่งไม่สายเกินไป แต่สุดท้ายตอนดำเนินคดีต้องชัดเจนว่าผิดหรือไม่ผิดอย่างไร ซึ่งต่างจากเคสนี้ซึ่งเห็นชัดเจนว่า เราเลยดำเนินการได้เลย ซึ่งก็ต้องให้เวลาในส่วนของคณะอนุฯ เพราะประธานที่เป็นอัยการก็นัดและติดตาม เราพยายามรวบรวมให้เร็วเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น