xs
xsm
sm
md
lg

สคอ.แจงพรรคการเมืองมีสิทธิแก้ กม.ห้ามขายเหล้าวันพระใหญ่ในสภา แต่ขอให้มองรอบด้าน รับผิดชอบผลที่ตามมา ย้ำช่วยลดอุบัติเหตุจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผอ.สคอ. ย้ำห้ามขายเหล้าวันพระใหญ่ มีแค่ไม่กี่วัน ไม่ถึง 2% ของ 356 วัน แต่ช่วยลดอุบัติเหตุลงชัดเจน หากพรรคการเมืองอยากแก้ไขก็เป็นสิทธิในสภา หากปรับปรุงจริง เจ้าพนะกงานพร้อมปฏิบัติตาม แต่ขอให้มองรอบด้าน บาลานซ์ข้อดีข้อเสีย หากเกิดผลกระทบก็ควรออกมารับผิดชอบ ส่วนข้อเสนอจัดโซนนิ่งหวั่นไม่เท่าเทียม

เมื่อวันที่ 17 ส.ค. นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สคอ.) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข้อเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระใหญ่ โดยระบุชาวต่างชาติไม่เข้าใจทำไมต้องห้ามขาย ว่า เราห้ามขาย 24 ชั่วโมงเฉพาะวันพระใหญ่ แต่ทั้งปีมี 365 วัน แค่ไม่ถึง 1-2% ของวันที่ขายได้ 24 ชั่วโมง แต่วันที่ห้ามขายข้อมูลชัดเจนว่าอุบัติเหตุลดลงเป็นฟันหรอ อย่างศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนนเขาวิเคราะห์ในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาที่ผ่านมา พบว่า ก่อนที่จะเข้าวันอาสาฬหบูชาอุบัติเหตุยังสูงอยู่เลย แต่พอ 2 วันที่ห้ามขายต่อเนื่อง 48 ชั่วโมง อุบัติเหตุทางถนนหายไปครึ่งหนึ่ง จากพันกว่าครั้งเหลือ 600-700 ครั้ง ซึ่งการห้ามขาย 24 ชั่วโมงวันพระใหญ่นี้ก็ช่วยลดอุบัติเหตุและปัญหาอื่นๆ ด้วย แต่แค่ว่าเราไม่ได้ขอทั้งปี และไม่ได้ขอวันเสาร์อาทิตย์ทุกสัปดาห์ ขอแค่วันพระใหญ่ ซึ่งเจตนารมณ์ก็เพื่อลดการเข้าถึงเป็น Pilot เพียงไม่กี่วัน เวลา 24 ชั่วโมงไม่ได้เยอะ คนจะกินก็สามารถซื้อก่อนวันห้ามขายได้ด้วยซ้ำ

"ส่วนที่พรรคการเมืองอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้นั้น ก็เป็นสิทธิของการเมือง เพราะสามารถใช้สภา ส่วนเราในฐานะเจ้าพนักงานตามกฎหมายเมื่อปรับปรุงมาเป็นอย่างไรเราก็ปฏิบัติ แต่สิ่งสำคัญคืออยากให้มองรอบด้าน เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตามมีทั้งบวกและลบ ขอให้มองให้ครบถ้วน เมื่อเกิดผลกระทบอะไรมา ก็ขอให้รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลง ก็ต้องบาลานซ์ทั้ง 2 ด้าน เพราะมีทั้งเรื่องสิทธิหน้าที่ และความรับผิดชอบที่ต้องบาลานซ์ทั้งคู่" นพ.นิพนธ์กล่าว

เมื่อถามถึงข้อเสนอเรื่องการจัดโซนนิ่ง นพ.นิพนธ์กล่าวว่า ก็มีคนเคยพูดเหมือนกัน อย่างสมมติถ้าโซนนิ่งภูเก็ตหรือสมุยทั้งเกาะได้หรือไม่ แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุใครรับผิดชอบ บริษัทจ่ายหรือไม่ หรือคนเที่ยวบอกขอเฉพาะถนนข้าวสารได้ไหม ถ้าข้าวสารขอได้ที่อื่นจะขอหรือไม่ ก็จะเกิดเรื่องที่ว่าทำไมที่นี่ได้ ที่อื่นไม่ได้ เป็นการละเมิดกันหรือไม่ และเมื่อพิจารณาในส่วนของใบอนุญาตขายสุราทั่วประเทศมี  6 แสนกว่าใบ เมื่อเทียบสัดส่วนประชากรที่ดื่ม ของสหรัฐอเมริกาพบว่าอยู่ที่ 1 พันคนต่อ 1 ใบอนุญาต ส่วนประเทศไทยประมาณ 110 คนต่อ 1 ใบอนุญาต เฉลี่ยคือใบอนุญาตประเทศไทยเมื่อเทียบกับอเมริกาเรามากกว่าเขาประมาณ 10 เท่า แล้วอเมริกายังมีการแยกประเภทใบอนุญาตการขายเอาไปกินที่บ้านกับประเภทขายนั่งดื่มที่ร้าน ซึ่งแบบนั่งดื่มในร้านจะเสียภาษีทุกช็อต ถ้าซื้อกลับบ้านก็มีมาตรการส่งเสริม แล้วมีการออกกฎหมาย Open- Container Law คือซื้อแล้วเปิดระหว่างทาง บางรัฐจะผิดกฎหมาย แต่บ้านเราไม่ใช่เช่นนั้น ของเราซื้อหน้าร้านสะดวกซื้อก็ดื่มหน้าร้านเลย


กำลังโหลดความคิดเห็น