xs
xsm
sm
md
lg

3 ดูด 5 เมนู เทคนิคเพิ่ม "น้ำนม" พร้อม 3 วิธีช่วยฟื้นฟูสุขภาพแม่หลังคลอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมอนามัย แนะ 3 ดูด 5 เมนู เทคนิคช่วยกระตุ้น "น้ำนมแม่" หลังคลอด ส่งเสริมเลี้ยงลูกนมแม่ 6 เดือน ด้านกรมแผนไทยแนะ 3 วิธีช่วยลดอาการปวดเมื่อยหลังคลอด ผิวหน้าทองแตก และน้ำนมไหลน้อย ด้วยหัตถการ อาหารและยาสมุนไพร

เมื่อวันที่ 12 ส.ค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า วันที่ 12 ส.ค.ของทุกปี เป็นวันแม่แห่งชาติ และทุกวันที่ 1-7 ส.ค.ของทุกปีประกาศเป็นสัปดาห์นมแม่โลก กรมอนามัยสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ยาวนานตามความต้องการ โดยปี 2556 สัปดาห์นมแม่โลกใช้แนวคิด “Enabling Breastfeeding” สานพลัง สร้างสรรค์ สังคมนมแม่ เพื่อพ่อแม่ที่ต้องทำงาน ให้แม่ทุกคนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน ตามข้อแนะนำองค์การอนามัยโลก โดยเทคนิค 3 ดูด ดังนี้ 1.ดูดเร็ว ให้ลูกดูดนมทันทีหลังคลอด ภายใน 1 ชั่วโมง 2.ดูดบ่อย ให้ลูกดูดนมอย่างน้อยทุก 2-3 ชั่วโมง และ 3.ดูดถูกวิธี โดยให้ลูกดูดนมจากอกแม่อย่างถูกวิธี และในแต่ละครั้งควรให้ลูกดูดนมให้เกลี้ยงเต้า เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำนมของคุณแม่ให้เพิ่มขึ้นตามความต้องการของลูกน้อย เนื่องจากแม่ที่ให้นมลูกต้องการพลังงานมากกว่าคนปกติ ถึง 500 กิโลแคลอรี ดังนั้น แม่จึงควรกินอาหารหลากหลายครบทุกหมู่ ในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย

ทั้งนี้ อาหารที่ช่วยเพิ่มน้ำนมให้กับแม่ คือ อาหารที่พบได้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ผักผลไม้ต่างๆ เนื้อสัตว์ ธัญพืช ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม เพราะอุดมด้วยสารอาหาร อาทิ โฟเลต แคลเซียม ธาตุเหล็ก ทองแดง สังกะสี ที่จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพคุณแม่หลังคลอด อีกทั้งควรกินอาหารที่มีผัก 5 ชนิดประกอบจะช่วยกระตุ้นและเพิ่มน้ำนมอย่างดี ได้แก่ 1.เมนูหัวปลี มีธาตุเหล็กและแคลเซียมสูง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด 2.เมนูขิง มีฤทธิ์ร้อนช่วยขับลม ร่างกายอบอุ่นเหมาะกับแม่หลังคลอด ช่วยย่อยอาหาร ลดความเสี่ยงท้องผูกหลังคลอด 3.เมนูใบกะเพรา มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง มีฤทธิ์ขับลม บำรุงธาตุ เพิ่มน้ำนม 4.เมนูฟักทอง มีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา มีฟอสฟอรัสและเบตาแคโรทีนช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง และ 5.เมนูกุยช่าย มีฟอสฟอรัสสูง บำรุงกระดูก ดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต บำรุงน้ำนม นอกจากนี้ แม่ที่ให้นมลูกควรเพิ่มปริมาณน้ำดื่มอีก 1 ลิตรจากที่ดื่มอยู่ปกติ เพราะน้ำเป็นหนึ่งในอาหารเพิ่มน้ำนมที่จะถูกนำไปช่วยสร้างและเพิ่มน้ำนมแม่ และควรเป็นน้ำอุ่นเท่านั้น ควรงดน้ำเย็น น้ำอัดลม เครื่องดื่มคาเฟอีนและแอลกอฮอล์


ด้าน นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า แม่หลังคลอดลูกต้องมีการอยู่ไฟ เพื่อปรับธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม และไฟ ให้สมดุล เพราะร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนถึงหลังคลอด ทั้งร่างกายและจิตใจ โดยมักจะพบปัญหาสุขภาพ 3 อาการ คือ น้ำนมไหลน้อย ปวดเมื่อยร่างกายหลังคลอด และผิวพรรณแตกลายบริเวณหน้าท้อง จึงต้องได้รับการฟื้นฟูสุขภาพ ซึ่งตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยมีดังนี้ 1.หัตถการนวดและประคบสมุนไพร ทับหม้อเกลือ อบไอน้ำสมุนไพร ช่วยขับน้ำคาวปลา ทำให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลืองดีขึ้น ผิวพรรณสดใส รักษาอาการปวดเมื่อย และขัดยอก หากคลอดเองปกติเริ่มทำหัตถการ 7 วันหลังคลอด หากผ่าตัดคลอดเริ่ม 30 วันหลังคลอด เนื่องจากแผลผ่าตัดหายแล้ว แต่ไม่ควรเกิน 3 เดือน และควรทำต่อเนื่อง 5 - 7 วัน 2.อาหารและเครื่องดื่มสมุนไพร เน้นที่มีรสร้อนช่วยบำรุงธาตุไฟ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เช่น ขิง พริกไทย ดีปลี กระชาย ใบแมงลัก เสริมพลังมารดากลับคืนมาโดยเร็ว ฟื้นฟูสภาพร่างกายให้แข็งแรงจะได้มีน้ำนมเลี้ยงดูบุตร และ 3.ยาสมุนไพร คือ ยาประสะไพลใช้ขับน้ำคาวปลา , ยาปลูกไฟธาตุ กระตุ้นน้ำนม กระจายเลือดลม ในหญิงหลังคลอด , ยาประสะน้ำนม บำรุงน้ำนม เพิ่มปริมาณน้ำนม กระตุ้นการไหลของน้ำนมดีขึ้น แต่ยาประสะไพลและยาปลูกไฟธาตุ มีข้อห้ามในหญิงที่มีอาการตกเลือดหลังคลอด

"แม่หลังคลอดมีสิทธิฟื้นฟูสุขภาพหลังคลอดตามสิทธิเบิกจ่าย เช่น บัตรทอง เบิกจ่ายตรง ดังนี้ นวดไทย ประคบสมุนไพร ทับหม้อเกลือ อบไอน้ำสมุนไพร การได้รับคำแนะนำปฏิบัติตัวสำหรับคุณแม่หลังคลอด มี รพ.ที่ให้บริการด้านการแพทย์แผนไทยกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ สามารถให้คำปรึกษา คำแนะนำ และให้บริการดูแลมารดาหลังคลอดได้" นพ.ขวัญชัยกล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น