xs
xsm
sm
md
lg

ควบคุมโรคยัน "วัคซีนโควิด" ไม่ทำให้เกิดกล้ามเนื้ออ่อนแรง-มะเร็งตามคลิปโซเชียลอ้าง ขออย่าแชร์ต่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมควบคุมโรค ยันฉีดวัคซีนโควิดทำกล้ามเนื้ออ่อนแรง-มะเร็ง ตามคลิปโซเชียล ไม่เป็นจริง ย้ำวัคซีนมีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงเหมือนวัคซีนอื่น ส่วนอาการรุนแรงอย่างกล้ามเนื้อกัวใจอักเสบพบต่ำกว่า 1 ในล้านโดส ชี้ไม่ฉีดเสี่ยงเกิดมากกว่า แถมเป็นลองโควิดได้ ขออย่าแชร์ต่อ

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีการโพสต์คลิปบนสื่อโซเชียลมีผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 พบภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงทั่วไป หรือเป็นโรคมะเร็ง ว่า  กรมฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลและขอชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ ปัจจุบันยังไม่พบรายงานการเกิดกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือการเกิดมะเร็งที่เป็นผลมาจากการฉีดวัคซีนโควิด และจากข้อมูลรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ จากคณะกรรมการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์ภายหลังการได้รับวัคซีน (AEFI) ที่ประกอบด้วยทีมผู้ทรงคุณวุฒิร่วมพิจารณา พบว่า ผลข้างเคียงส่วนใหญ่ที่พบหลังการฉีดวัคซีน ได้แก่ ไข้ ปวดบริเวณที่ฉีด ปวดเมื่อยตัว เวียนศีรษะ คลื่นไส้ ปกติจะหายได้เองภายใน 2-3 วัน และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาว

"ส่วนอาการที่รุนแรง เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ พบอุบัติการณ์ต่ำกว่า 1 ในล้านโดส ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำกว่าการติดเชื้อโควิดที่มีโอกาสป่วยหนักจนเสียชีวิตในผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน" นพ.ธเรศกล่าว

นพ.ธเรศกล่าวว่า นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายที่ไม่เคยฉีดวัคซีนจะมีอาการหลงเหลือในระยะยาว (Long COVID) เนื่องจากในขณะที่ติดเชื้อโควิด ร่างกายมีการสร้างแอนติบอดีบางตัวขึ้นมา ไปจับกับเซลล์ของอวัยวะบางส่วนในร่างกาย และเกิดการทำลายอวัยวะ โดยอาการ Long COVID เป็นอาการเจ็บป่วยที่ไม่มีลักษณะตายตัว อาจเหมือนหรือต่างกันในแต่ละบุคคล เกิดผลกระทบขึ้นได้ทั่วร่างกาย ตั้งแต่ระบบหายใจ ระบบประสาท หัวใจและหลอดเลือด ทำให้ผู้ที่หายป่วยบางรายยังไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างเดิม จะเห็นได้ว่าการติดเชื้อโควิดส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวมากกว่าผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน ดังนั้นขอประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลบิดเบือนดังกล่าว และไม่แชร์ข้อมูลต่อ หากมีปัญหาความปลอดภัยที่อาจเกิดจากวัคซีน กรมควบคุมโรคจะมีการประกาศแจ้งให้ประชาชนทราบโดยทั่วกัน

ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า อัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อโควิดมีแนวโน้มลดลงมากหลังประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศฉีดวัคซีนโควิดครบ 2 เข็ม ปัจจุบันมีผลงานการฉีดวัคซีนสะสมกว่า 147 ล้านโดส หรือมากกว่าร้อยละ 80 ของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดในประเทศไทยลดลงอย่างชัดเจน จากข้อมูลของคณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล ระบุว่า วัคซีนโควิดสามารถปกป้องชีวิตคนในประเทศไทยมากกว่า 490,000 คน ดังนั้น ขอย้ำว่าวัคซีนโควิดช่วยลดอาการป่วยรุนแรงและลดการเสียชีวิตจากการติดเชื้อ เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้รับวัคซีน ครอบครัว และสังคม จนปัจจุบันแทบจะไม่มีผู้ฉีดวัคซีนครบโดสตามด้วยเข็มกระตุ้นติดโควิดเสียชีวิต ซึ่งไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากโควิดต่ำกว่าตัวเลขของประเทศทางตะวันตกหลายเท่า สะท้อนถึงการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดที่มีประสิทธิภาพจากนโยบายและมาตรการที่ใช้ จนเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศด้านความมั่นคงด้านสุขภาพ


กำลังโหลดความคิดเห็น