ปลัด สธ.เผย อบจ.หลายแห่งตอบรับพร้อมรับถ่ายโอน รพ.สต.รอบใหม่ปีงบ 67 หลายแห่งยังไม่พร้อม พบมีข้อกังวลเรื่องกฎหมาย ทั้งเรื่องวิชาชีพ ความรับผิดชอบหากเกิดปัญหา ระเบียบกรมบีญชีกลางหากจัดซื้อยาข้ามกระทรวง ส่วนช่วยเหลือบุคลากรถ่ายโอนขอกลับอยู่ระหว่างรวบรวมตัวเลขรายชื่อให้ตรงกันสองฝ่าย
เมื่อวันที่ 7 ส.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นความพร้อมการถ่ายโอนภารกิจ รพ.สต.ไปยัง อบจ.รอบใหม่ที่จะมีขึ้น ต.ค. 2566 ว่า ที่ผ่านมา สธ.ทำหนังสืออย่างเป็นทางการเพื่อสอบถามไปยัง อบจ.แต่ละแห่ง ถึงความพร้อมในการรับถ่ายโอน หลายแห่งตอบกลับมาว่าพร้อมแล้ว สธ.ก็ปล่อยดำเนินการ แต่ตรงไหนยังไม่พร้อม สธ.ยังพร้อมสนับสนุน เพียงแต่จะเกิดข้อห่วงใยเรื่องกฎหมาย เช่น บางครั้งส่งทันตแพทย์ไปปฏิบัติงานร่วมกันก็เกิดคำถามจากทันตแพทย์ว่า หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา จะเป็นส่วนไหนรับผิดชอบ ซึ่งยังมีเรื่องกฎหมายที่ต้องมาหารือร่วมกันให้ชัดเจนว่า จะดำเนินการอย่างไร เรื่องนี้ต้องเข้าใจว่า หากเกิดประเด็นกฎหมาย สมมติเกิดการฟ้องร้องในอนาคต ต้องมีความชัดเจนว่า ใครจะรับผิดชอบ รวมถึงบางเรื่องได้สอบถามไปยังกรมบัญชีกลาง สมมติว่า กรณี สธ.นำงบประมาณการจัดซื้อยาไปให้ที่ถ่ายโอนภารกิจไปแล้ว มีระเบียบรองรับหรือไม่ คำตอบคือ ไม่มี ซึ่งก็สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย จึงต้องหารือเรื่องข้อกฎหมายให้ชัดเจนเช่นกัน
“ผมเชื่อว่าการถ่ายโอน เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องมีความพร้อมหลายเรื่อง อย่างกฎหมายมีหลายฉบับ และไม่ใช่กฎหมายที่ สธ.ดูแลเอง เช่น งบประมาณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเบิกจ่าย ระเบียบเงินบำรุง อบต. เป็นสิ่งที่ สธ.ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้” ปลัดสธ.กล่าว
เมื่อถามว่าจะมีการถ่ายโอน รพ.สต.อีกครั้งใน ต.ค. 2566 นี้ การหารือเพื่อขจัดอุปสรรคที่กังวลต่างๆ ไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำจะทันหรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า มีการหารือร่วมกันตลอด ยืนยันว่า สธ.เห็นด้วยกับการถ่ายโอนภารกิจ แต่ทุกอย่างต้องมีความพร้อมจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง 1.กำลังคน เพราะหลายแห่งหากไปสอบถามก็ยังมีทั้งอยากถ่ายโอนและไม่อยากถ่ายโอน ทั้งหมดขึ้นกับการแสดงเจตจำนง ซึ่งหลักเกณฑ์ คือ มีคุณสมบัติพอ เจ้าตัวต้องยินยอมพร้อมใจไป มีการลงหนังสืออย่างเป็นทางการก็ต้องให้เขาไปตามกฎเกณฑ์ 2.งบประมาณ จะมีหลายส่วน ทั้งจาก สปสช. จากสำนักงบประมาณ ตรงนี้อยู่นอกการรับผิดชอบ สธ. ก็จะเป็นการดำเนินการของ สปสช.และสำนักงบฯ กับทางหน่วยที่รับถ่ายโอนไป และ 3.ข้อกฎหมายมีหลายฉบับ ส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับ สธ. ซึ่งจริงๆ สธ.ยินดีกับการถ่ายโอน เพียงแต่ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่นอกเหนือสธ.จะดำเนินการได้ แต่หน่วยไหนต้องการให้เราไปช่วย เราก็ยินดี ขณะนี้ก็มีหลายจังหวัดให้เราช่วยอยู่ แต่อีกหลายแห่งแสดงเจตจำนงชัดเจนว่า ไม่ต้องมาช่วยแล้ว เราก็ต้องถอนตัวออกมา
ถามว่ากรณีแนวทางช่วยเหลือบุคลากรที่ถ่ายโอนไปท้องถิ่นแล้ว แต่ต้องการกลับ สธ. เบื้องต้นมีประมาณ 400 คน นพ.โอภาส กล่าวว่า ต้องรวบรวมรายชื่อ และเสนอให้คณะอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุขฯ รับทราบ เบื้องต้นมีจำนวนไม่น้อย เมื่อถามเหตุผลก็อย่างที่เคยให้ข้อมูลกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นก่อนไปได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน ไม่ทราบว่าไปแล้วกลับมา สธ.ไม่ได้ ซึ่งก็มีหลายปัจจัย
ถามอีกว่ากรณีการช่วยเหลือบุคลากรที่เปลี่ยนใจไม่ถ่ายโอนรอบใหม่อีกประมาณ 100 คน จะช่วยได้เลยหรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า หากยังไม่มีการถ่ายโอน หรือทำข้อตกลงอะไรก็ต้องนำตัวเลขทั้งฝั่ง สธ.และท้องถิ่นมาดูกันว่า ตัวเลขเป็นอย่างไร ซึ่งกำลังหารือประเด็นนี้เช่นกัน