xs
xsm
sm
md
lg

สธ.สั่งสอบด่วน หลังโซเชียลถามแรง "คนใน" ป่วน รพ.ศรีสะเกษ ทำระบบล่ม หวังแลกกินหัวคิวซื้อโปรแกรมใหม่หรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปลัด สธ.สั่งตรวจสอบ หลังโซเชียลสะพัด รพ.ศรีสะเกษระบบข้อมูลล่ม ตั้งข้อสงสัยบุคลากรป่วนข้อมูล หวังกินหัวคิวซื้อโปรแกรมใหม่ ผอ.รพ.ตั้ง คกก.สอบข้อเท็จจริงแล้ว ยันข้อมูลไม่หาย แต่ใช้เวลาเรียคืนข้อมูลนาน ทำผู้ป่วยต้องรอนาน

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก“อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part6” ออกมาเปิดเผยข้อมูลและตั้งคำถามว่า รพ.ศรีสะเกษ มีเจ้าหน้าที่ทำการลบข้อมูลผู้ป่วยใน Database ทั้งระบบจริงหรือไม่ มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร หรือเพื่อเสนอขายโปรแกรม กินค่าหัวคิว ซึ่งทำให้เกิดระบบล่ม ส่งผลกระทบกับผู้ป่วยที่เดินทางมารักษาต้องเดินทางกลับ และทำให้ไม่สามารถเรียกเก็บเงิน สูญเสียรายรับเกือบ 50 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ผอ.รพ.ศรีสะเกษ รายงานข้อมูลเข้ามาเบื้องต้นว่า ข้อมูลผู้ป่วยไม่ได้หายไปไหน มีการทำข้อมูลสำรองไว้ ส่วนที่ทางเพจโพสต์ ผอ.รพ.ระบุว่า มีทั้งตรงและไม่ตรงข้อเท็จจริง ตนได้กำชับว่า ให้สรุปข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมด และชี้แจงต่อสาธารณะว่า จริงๆแล้วเป็นอย่างไร และมอบผู้ตรวจราชการ สธ.ที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าวลงไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

ถามว่าส่วนกลางจะลงไปตรวจสอบข้อมูลด้วยหรือไม่ เนื่องจากมีคนมองว่า ผู้ที่ลบข้อมูลผู้ป่วย มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นตัวประกันต่อรองให้ รพ. ซื้อโปรแกรมใหม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า เรื่องนี้มอบผู้ตรวจฯลงไปดูรายละเอียดว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

ด้าน นพ.ชลวิทย์ หลาวทอง ผอ.รพ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร ใครมีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้ระบบข้อมูลต่างๆ ล่ม นอกจากนี้ ยังตั้งคณะกรรมการในการดูแลข้อมูลไม่ให้เสียหาย คือ เป็นการเรียกข้อมูลสำรองที่เก็บไว้นำมาใช้ให้ทันเวลา ซึ่งตอนที่เกิดเหตุการณ์ช่วงที่ข้อมูลหาย ต้องมีการเข้าระบบระยะเวลาหนึ่ง ช่วงเวลานั้นจึงจำเป็นต้องกลับมาใช้ระบบกระดาษก่อน แต่เมื่อระบบคอมพิวเตอร์กลับมาปกติ จึงนำข้อมูลจากกระดาษกลับเข้าสู่ดิจิทัล ขณะนี้ทุกอย่างเป็นปกติแล้ว

“ช่วงที่มีปัญหาของระบบ ทำให้คนไข้รอนาน เนื่องจากการคีย์ข้อมูลต้องกลับไปใช้กระดาษในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่เมื่อกู้ระบบได้ก็กลับคืนปกติ แต่ข้อมูลคนไข้ทั้งหมดไม่ได้หายไปไหน หรือหลุดออกไปข้างนอก ยังอยู่ในระบบแบคอัพข้อมูลอยู่ เพียงแต่การเรียกข้อมูลกลับคืนไม่ได้เรียกได้ทันที เนื่องจากเป็นรพ.ขนาดใหญ่ จึงต้องใช้เวลา” นพ.ชลวิทย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีมีประเด็นบุคลากรป่วนข้อมูล เพื่อหวังส่วนต่างซื้อโปรแกรมใหม่ นพ.ชลวิทย์ กล่าวว่า อยู่ในขั้นตอนการสอบสวน จะไปโทษโดยตรงไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างอ่อนไหว อย่างระบบคอมพิวเตอร์ต้องตรวจสอบให้ดี เราไม่สามารถรู้ได้ทันทีว่าคนไหนเป็นคนทำ เพราะคนที่จะเข้าข้อมูลมีหลายระดับ ทั้งแอดมิน ทั้งแพทย์ พยาบาล สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ กรณีดังกล่าวมองว่าไม่ใช่เกิดจากแฮกเกอร์จากภายนอก แต่เป็นระบบภายใน ซึ่งกำลังตรวจสอบเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วน

“ขอให้ผู้ป่วยและญาติว่า ข้อมูลไม่ได้รั่วไหล และไม่ได้หายไป ถูกเก็บไว้ในคลังข้อมูล เพียงแต่ตอนนั้นกว่าจะเรียกข้อมูลกลับมาค่อนข้างใช้เวลานาน เนื่องจากข้อมูลชุดใหญ่ทำให้ช่วงเวลาเกิดปัญหาค่อนข้างกระทบต่อผู้ป่วยในการรอนาน ตอนที่เกิดเหตุเกิดตอนเช้า สามารถทำข้อมูลกลับมาเป็นปกติได้ในช่วงบ่าย” ผอ.รพ.ศรีสะเกษ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น