xs
xsm
sm
md
lg

กรมอนามัยเผย 1 กม.รอบจุด "โกดังพลุ" ระเบิด น้ำขุ่นเกินมาตรฐาน เลี่ยงใช้ 3 วัน ให้ใช้น้ำจากท้องถิ่นแทน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมอนามัย เผยขั้นตอนเก็บตัวอย่างน้ำ วิเคราะห์การปนเปื้นสารเคมีเหตุโกดังพลุระเบิด แบ่งเป็น 3 โซน พบไนเตรทไม่เกินค่ามาตรฐาน แต่น้ำสีขุ่นเกินมาตรฐานบางพื้นที่ งดใช้น้ำจนกว่าผลตรวจเชิงลึกออกใน 3 วัน ให้ใช้น้ำที่ท้องถิ่นจัดเตรียม จี้ตรวจสอบแหล่งเก็บพลุ ดอกไม้เพลิง หวั่นซ้ำรอย

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงเหตุโกดังพลุระเบิด ที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นสัญญาณให้ทุกหน่วยงาน ต้องตระหนักและให้ความสำคัญกับโอกาสและความเสี่ยงสุขภาพ ชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน จากการเก็บสะสมพลุหรือดอกไม้เพลิงไว้ในพื้นที่ โดยให้ทำการตรวจสอบและเฝ้าระวังด้านความปลอดภัย พิจารณากรอบการให้อนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องร่วมกับพื้นที่ในลักษณะชุมชน ที่พักอาศัย เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำรอย เนื่องจากพลุและดอกไม้เพลิงมีส่วนประกอบของสารเคมีอันตราย และสารที่เป็นเชื้อเพลิงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดระเบิดและปนเปื้อนสารพิษในอากาศส่งผลกับระบบทางเดินหายใจของประชาชนได้

"หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรเร่งตรวจสอบกระบวนการผลิต การสะสม หรือการจัดเก็บสารเคมีตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตพลุ หรือดอกไม้เพลิงประเภทต่างๆ ของสถานประกอบกิจการในพื้นที่ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และควรมีมาตรการในการควบคุม กำกับ ที่เคร่งครัด พร้อมจัดทำแนวทางป้องกันไม่ให้มีการประกอบการเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน" นพ.สุวรรณชัยกล่าว


ด้าน นพ.อรรถสิทธิ์ แดงมณี ผอ.ศูนย์อนามัยที่ 12 จ.ยะลา ว่า ได้รับมอบหมายจาก นพ.สุวรรณชัย ให้ทีม SEhRT ของศูนย์อนามัยที่ 12 ยะลา ทำงานร่วมกับพื้นที่เพื่อดูแลสุขภาพประชาชน และเฝ้าระวังด้านสุขาภิบาล สุขอนามัย และอนามัยสิ่งแวดล้อม เก็บตัวอย่างน้ำใช้เพื่อตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อนสารเคมีในพื้นที่ โดยแบ่งพื้นที่การเก็บตัวอย่างออกเป็น 3 โซน คือ โซนไข่แดง รัศมีไม่เกิน 100 เมตร โซนไข่ขาว รัศมีไม่เกิน 100 - 500 เมตร โซนกระทะ รัศมีไม่เกิน 500 - 1000 เมตร ผลพบว่า ปริมาณไนเตรตในน้ำมีค่าไม่เกินมาตรฐาน แต่ค่าความขุ่นมีค่าเกินค่ามาตรฐานในบางพื้นที่ จึงแนะนำให้ประชาชนใช้น้ำที่ทางหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จัดเตรียมให้บริการ จนกว่าจะทราบผลตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อนสารเคมีเชิงลึกทางห้องปฏิบัติการฯ ในอีก 3 วัน

ทั้งนี้ หน่วยงานในพื้นที่ควรล้างบ่อน้ำที่เป็นแหล่งน้ำใช้หลักของชุมชนตามหลักสุขาภิบาล เพื่อให้ประชาชนสามารถนำน้ำมาใช้ได้ สำหรับอาหารและน้ำดื่มที่ภาครัฐและเอกชนนำมาช่วยเหลือให้แก่ชุมชนและศูนย์อพยพ ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นราธิวาส ควบคุม กำกับ ดูแลด้านความสะอาด และการประกอบปรุงให้เป็นตามหลักสุขาภิบาลอาหารอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงซ้ำซ้อนจากโรคระบาดที่มาจากอาหารน้ำเป็นสื่อ










กำลังโหลดความคิดเห็น