คณะวิทย์ มธ. พัฒนาเครื่องดื่มโปรตีนจาก "ถั่วเขียว" โปรตีนสูง 5.3 กรัม แคลอรีต่ำ คาร์โบไฮเดรตมีเพียง 1.7 กรัม ไขมัน 0.2 กรัม เหมาะกับกลุ่มวีแกน แำกลูเตน เป็นตัวเลิอกทดแทนการใช้ถั่วเหลืองที่มีกลิ่นเฉพาะตัว ไม่มีสารประกอบที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ท้องอืด ท้องเสีย ไม่แต่งกลิ่น-รส คว้าเหรียญทองจากเวทีแข่งขันสิ่งประดิษฐ์ ITEX 2023
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. รศ.ดร.เทพปัญญา เจริญรัตน์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า "ถั่วเขียว" ถือเป็นผลผลิตทางการเกษตรไทยที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น เพาะปลูกได้ง่ายในทุกสภาพดิน เป็นวัตถุดิบสำคัญรังสรรค์เมนูขนมหวาน อาทิ ถั่วเขียวต้มน้ำตาล ขนมกง ส่วนอินเดียมีการนำถั่วในตระกูลเดียวกันทำเมนูอาหารคาว และเป็นธัญพืชที่มีฤทธิ์เย็นและเป็นหนึ่งในภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่นที่นำมาใช้เป็น ‘อาหารยาตำรับโบราณ’ ที่สอดแทรกวัฒนธรรมอาหารในหลากหลายเชื้อชาติ อาทิ จีนและเกาหลี ดังนั้น หากภาครัฐมีนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตถั่วเขียวที่เหมาะสมในแต่ละฤดูกาล คาดว่าถั่วเขียวจะสามารถก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ สร้างผู้ประกอบการเกษตรยุคใหม่ ตลอดจนยกระดับภาคการเกษตรไทยให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ทั้งนี้ คณะวิทย์ มธ. ได้มองหาแหล่งโปรตีนใหม่ทดแทน ‘ถั่วเหลือง’ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงแต่มีกลิ่นเฉพาะตัวที่แตกต่าง โดยจากการศึกษาพบว่า ‘ถั่วเขียว’ มีกลิ่นหอมอ่อนตามธรรมชาติ มีปริมาณโปรตีนประมาณ 24% ถั่วเหลืองมีปริมาณโปรตีนประมาณ 34% นอกจากนี้ ถั่วเขียวยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่หลากหลาย ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่ม ‘สารประกอบฟีนอลิก’ (Phenolic Compounds) รวมถึงยังปราศจากกลูเตน จึงได้พัฒนาเครื่องดื่มโปรตีนทางเลือกสกัดจาก ‘ถั่วเขียว’ ชื่อ ‘GreenTien’ (กรีนทีน) เอาใจคนรักสุขภาพ สายวีแกนหรือมังสวิรัติ รวมถึงผู้บริโภคที่แพ้โปรตีนกลูเตนจากธัญพืชและน้ำตาลแลคโตสในนม
"GreenTien หรือ ‘Alternative plant-based protein drink for healthiness’ ผ่านการวิเคราะห์คุณค่าทางอาหาร รวมถึงทดสอบทางประสาทสัมผัส พบว่า ‘GreenTien หนึ่งขวด (240 มล.) มีโปรตีน 5.3 กรัม ซึ่งนมวัวปริมาตรเท่ากันมีโปรตีน 8.0 กรัม แต่ด้วยกรรมวิธีผลิตที่พัฒนาขึ้นทำให้ GreenTien มีแคลอรีต่ำ มีคาร์โบไฮเดรตเพียง 1.7 กรัม และไขมันเพียง 0.2 กรัม ซึ่งน้อยกว่านมวัวที่มีคาร์โบไฮเดรตมากถึง 12 กรัม และไขมันมากถึง 9 กรัม" รศ.ดร.เทพปัญญากล่าว
นอกจากนี้ ด้วยกลิ่นที่เฉพาะและรสหวานน้อยๆ ทำให้ ‘GreenTien เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้บริโภคโปรตีนจากพืช เนื่องจากนำถั่วเขียวมาผ่านกระบวนการทางเทคโนโลยีเอนไซม์ เพื่อเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบในถั่วเขียวให้ดูดซึมได้ง่าย มีรสหวานตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องใส่น้ำตาลหรือสารเพิ่มความหวาน ซึ่งกระบวนการนี้ได้รับการจดอนุสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว ภายใต้ความร่วมมือทีมวิจัยคณะวิทย์ มธ. และ รศ.ดร.สร้อยสุดา พรภักดีวัฒนา คณะอุตสาหกรรมเกษตร (สาขาวิชาเทคโนโลยีการหมัก) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)
สำหรับ GreenTien สามารถคว้ารางวัลเหรียญทอง จากเวทีประกวดและแข่งขันสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม “The 34th International Invention, Innovation & Technology Exhibition” (ITEX 2023) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย ด้วยเงื่อนไขของการพัฒนานวัตกรรมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และสังคม รวมถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG ในเป้าหมายที่ 2 ที่มุ่งขจัดความหิวโหยและความอดอยากทุกรูปแบบ
ส่วนการเรียนการสอนของสาขาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะวิทย์ มธ. ที่ปรับปรุงหลักสูตรล่าสุดในปี 2566 มุ่งเน้นบ่มเพาะศักยภาพและผลิต ‘นักเทคโนโลยีชีวภาพ’ ซึ่งปัจจุบันตลาดงานในกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (S-Curve) มีความต้องการนักเทคโนโลยีชีวภาพจำนวนมาก อาทิ อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ เป็นต้น โดยมุ่งพัฒนาให้มีหลักคิดแบบผู้ประกอบการ ผ่านการเชื่อมโยงหลักการพื้นฐานของเทคโนโลยีชีวภาพ การมองเห็นโอกาสทางการตลาด การบริหารจัดการ การออกแบบนวัตกรรม สู่การสร้างสรรค์ผลงานเชิงนวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์ที่พร้อมจัดจำหน่ายเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เนื่องจากสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว รับเทรนด์สุขภาพที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ผู้สนใจศึกษาสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.tuadmissions.in.th ทางเพจเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/SciTU/ หรือติดต่อ 02-5644490 ต่อ 2094
