สปสช.แจงปรับข้อมูลเบิกจ่าย "บัตรทอง" จาก 16 แฟ้ม เหลือ 13 แฟ้ม เริ่ม 1 ต.ค.นี้ เฉพาะ รพ.ที่มีความพร้อมก่อน ยังไม่ใช่ รพ.ทุกแห่ง มีกระบวนการช่วยเปลี่ยนผ่าน ไม่ต้องไปจ้าง Software vendor อัปเกรด หากยังไม่พร้อมใช้ระบบเดิมส่งข้อมูลได้
เมื่อวันที่ 20 ก.ค. พล.อ.อ.นพ.ทวีพงษ์ ปาจรีย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ สายงานบริหารกองทุน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวในการจัดประชุมชี้แจงการพัฒนาโครงสร้างชุดข้อมูล 13 แฟ้ม เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ระบบการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของ สปสช. ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงและพัฒนาเพื่อประโยชน์ในการทำงานทั้งต่อผู้รับบริการ ผู้ให้บริการ รวมถึงตัว สปสช. เองในการประมวลผลข้อมูล ที่ผ่านมาได้มีความพยายามแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงระบบ e-Claim ให้ลดความซับซ้อนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกแนวทางคือพัฒนาระบบ e-Claim ตัวใหม่ที่ทำให้การบูรณาการการทำงานดีขึ้น ส่งข้อมูลตรวจสอบข้อมูลง่ายขึ้น โดยจะใช้ร่วมกับมาตรฐานข้อมูลชุดใหม่ เพื่อให้ประสิทธิภาพการเบิกจ่ายดีขึ้น ทั้งนี้ การออกมาตรฐานข้อมูลชุดใหม่ อาจทำให้หน่วยบริการกังวลว่าจะสร้างภาระงานมากขึ้น จึงขอชี้แจงว่ามาตรฐานข้อมูลชุดใหม่นี้จะเริ่มใช้จริงในการส่งข้อมูลปี 2567 และไม่ได้ใช้กับทุกสถานพยาบาล แต่จะใช้กับสถานพยาบาลนำร่องที่มีความพร้อมก่อน จึงจัดประชุมชี้แจงข้อมูลให้หน่วยบริการและสถานพยาบาลทราบถึงโครงสร้างมาตรฐานข้อมูลชุดใหม่ว่าเป็นอย่างไร ข้อมูลแบบไหนที่ สปสช.ต้องการ และหากมีหน่วยบริการใดที่สนใจก็จะได้ส่งรายชื่อเข้าร่วมโครงการนำร่องต่อไป
ด้าน นายประเทือง เผ่าดิษฐ ผู้ช่วยเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า สปสช. พยายามปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบ e-Claim เนื่องจากใช้งานมากว่า 10 ปี และต้องรับข้อมูลหลายระบบ เช่น เป็น Clearing house ให้ประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการและครอบครัว สวัสดิการพนักงานส่วนท้องถิ่น ทำให้ระบบมีความเทอะทะ จึงต้องพัฒนาระบบ e-Claim ตัวใหม่ ทั้งนี้ ตัวข้อมูลที่ใช้เบิกจ่ายยังมีหลายประเด็นที่ต้องปรับปรุง เช่น ความซับซ้อนในการเบิกจ่าย การมีหลายโปรแกรมที่ต้องบันทึกข้อมูล เนื่องจาก สปสช. มีกองทุนย่อยหลายกองทุนและอาจเกิดการจ่ายเงินไม่พร้อมกัน รวมทั้งไม่มีระบบช่วยตรวจสอบการคีย์ข้อมูลเบิกจ่าย หรือโปรแกรมที่บันทึกและส่งเบิกเพื่อชดเชยตามรายการบริการ Fee schedule ปี 2566 มีถึง 7 โปรแกรมที่ใช้บันทึกข้อมูลแยกตามรายการบริการ บางรายการบริการส่ง 2 โปรแกรมแต่ใช้ข้อมูลเหมือนกัน ต่างกันแค่รายการที่เบิก เป็นต้น จึงต้องจัดการข้อมูลที่ใช้เบิกจ่ายให้สะดวกต่อหน่วยบริการ การพัฒนาโครงสร้างชุดข้อมูล 13 แฟ้ม ก็เพื่อลดงานของหน่วยบริการ เน้นเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นในการเบิกจ่าย
“แนวคิดการพัฒนาชุดข้อมูลมาตรฐานการเบิกจ่าย 13 แฟ้ม จะกำหนดโครงสร้างชุดข้อมูลให้หน่วยบริการเท่าที่จำเป็นสำหรับการเบิกจ่ายและตรวจสอบเท่านั้น โดยเน้นข้อมูลที่จัดเก็บในระบบ HIS หรือระบบสารสนเทศของหน่วยบริการ ให้สามารถนำข้อมูลในระบบ HIS มาส่งเพื่อเบิกจ่ายโดยไม่ต้องบันทึกข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อลดภาระและลดความผิดพลาดในการส่งข้อมูล” นายประเทือง กล่าว
นายประเทือง กล่าวว่า ขั้นตอนการเปลี่ยนผ่าน สปสช. จะเตรียมเครื่องมือช่วยการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนส่งเบิก เครื่องมือในการแปลงจาก 16 แฟ้ม เป็น 13 แฟ้ม และส่งข้อมูลการจ่ายตามการให้บริการ เพื่อช่วยให้หน่วยบริการไม่ต้องไปตามดูทีละโปรแกรมเพื่อดูว่า สปสช. จ่ายเงินครบแล้วหรือยัง รวมทั้งจะให้ทีม สปสช. เขต ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจและเป็นพี่เลี้ยงในการเตรียมความพร้อมในการส่งข้อมูลในระบบใหม่ ต้องขออภัยหน่วยบริการที่ได้มีการประกาศชุดมาตรฐานข้อมูล 13 แฟ้มออกไปโดยยังไม่ได้มีการสื่อสารก่อน ทำให้เกิดความสับสนว่า สปสช. จะบังคับใช้ชุดมาตรฐานข้อมูลแบบใหม่นี้ในวันที่ 1 ต.ค. 2566 ซึ่งต้องบอกว่าในระบบ 13 แฟ้ม เราใช้ความสมัครใจ ใครพร้อมก็เปลี่ยนก่อน ใครยังไม่พร้อมก็ให้ใช้ระบบเดิมไปก่อน และขอเน้นย้ำว่าหากมี Software vendor เข้าไปติดต่อเสนออัปเกรดระบบเพื่อให้สามารถส่งข้อมูล 13 แฟ้มกับ สปสช.ได้ ขอเตือนว่าไม่จำเป็น ไม่ต้องไปอัปเกรด เพราะ สปสช. จะมีกระบวนการช่วยเปลี่ยนผ่านจนทุกหน่วยบริการสามารถส่งข้อมูล 13 แฟ้มได้เมื่อพร้อม ไม่จำเป็นต้องรีบว่า 1 ต.ค. นี้ต้องเริ่ม พร้อมเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น