สธ.ชวนคนไทย ลด ละ เลิก "สุรา" ตลอดเข้าพรรษา ประดเมปีนี้เริ่ม 2 ส.ค. แนะใช้วิธี 1 ลด 3 เพิ่ม ด้านเครือข่ายงดเหล้าห่วงลดข้อจำกัดกฎหมาย เปิดทางทลายการผูกขาดเป็นเรื่องดี แต่ต้องเข้มบังคับใช้กฎหมาย ระวังเรื่องการแข่งโฆษณาการตลาด ดึงเยาวชนเป็นนักดื่มหน้าใหม่
เมื่อวันที่ 19 ก.ค. นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายธีรยุทธ สำราญทรัพย์ รองหัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และ นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายงดเหล้า (สคล.) แถลงข่าวกิจกรรมวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ปี 2566 โดย นพ.ณรงค์ กล่าวว่า วันเข้าพรรษาของทุกปีเป็น “วันงดดื่มสุราแห่งชาติ” ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 2 ส.ค. 2566 “ไกลเหล้า ไกลโรค ไกลอุบัติเหตุ” เนื่องจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบมากกว่าเชิงบวก ทั้งสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่าทุกปีทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากพิษของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3 ล้านคน เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมากกว่า 230 ชนิด นอกจากนี้ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พร้อมผู้นำทุกศาสนามีโอวาทมุ่งเน้นให้เห็นผลกระทบด้านลบจากการดื่มสุราด้วย
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า สธ.และภาคีเครือข่ายร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์วันงดดื่มสุราแห่งชาติปี 2566 เพื่อให้เป็นจุดเริ่มต้นดูแลสุขภาพของประชาชน เชิญชวนให้ร่วม ลด ละ เลิกการดื่มด้วยวิธี “1 ลด 3 เพิ่ม” คือ ลดการดื่ม เพิ่มเงินในกระเป๋า เพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกาย และเพิ่มความสุขในครอบครัว ช่วยลดรายจ่ายครัวเรือน ลดปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ดื่ม ครอบครัว และสังคม เช่น อุบัติเหตุ พิการ บาดเจ็บหรือเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
นพ.ธเรศ กล่าวว่า ข้อมูลจากศูนย์วิจัยปัญหาสุรา ด้านพฤติกรรมการดื่มสุราของประชากรไทยปี 2565 พบว่าแนวโน้มค่าใช้จ่ายในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของนักดื่มปัจจุบันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่านักดื่มในปี 2564 เสียค่าใช้จ่ายในการดื่มเพิ่มขึ้นจากปี 2560 เกือบ 2 เท่า แนวโน้มของการซื้อมาดื่มที่บ้านสูงมากขึ้น ผู้ดื่มหนักเป็นประจำมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสูงถึง 3,722บาท/เดือน เมื่อเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ย 340 บาท/วัน สำหรับกิจกรรมปีนี้ ประกอบด้วย การเสวนาประเด็น “สุรากับผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ ในมุมมองด้านสุขภาวะ”, การเทศนาธรรม “เลิกดื่มเพื่อชีวิตที่ดีกว่า” โดยพระธรรมวชิรเมธี (มีชัย วีรปุญโญ), นิทรรศการผลงานของบุคคลและองค์กรที่ทำคุณประโยชน์ดีเด่นด้านการป้องกันควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกิจกรรม “เชิญ ชวน เชียร์ ลด ละ เลิกเหล้า เข้าสู่ระบบบำบัดรักษา” ผ่านระบบลงนามออนไลน์ http://noalcohol.ddc.moph.go.th/ ร่วมงดเหล้าในช่วงเข้าพรรษาตลอดระยะเวลา 3 เดือน เพื่อนำไปสู่การเลิกเหล้าตลอดชีวิต
ด้านนายธีระ กล่าวว่า การลดข้อจำกัดทางกฎระเบียบการอนุญาตให้ผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เริ่มจากกฎกระทรวงที่ผ่าน ครม. ตั้งแต่ พ.ย. 2565 และอาจมีแนวโน้มที่จะลดเงื่อนไขการอนุญาตลงอีกในอนาคต มีข้อดีช่วยลดการผูกขาดทางการตลาด แต่มีส่วนที่ควรดูแลควบคู่กัน คือ เกิดการโหมโฆษณาเพื่อแข่งขันทางธุรกิจ กระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมบริโภคซึ่งน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนที่จะกลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้น จำเป็นต้องดูแลให้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มีการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดย สสส. จะเดินหน้าสร้างความรอบรู้และการรู้เท่าทันด้านสุขภาพ ผลกระทบสุขภาพและสังคมทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ประชาชนอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่เน้นการป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เช่น ควบคุมจุดจำหน่าย ความหนาแน่นของร้านค้า การกำหนดโซนนิ่ง การพิจารณาการออกใบอนุญาต/ต่อใบอนุญาต การควบคุมฉลากและบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น