สธ.เผยทำข้อมูลให้ ก.พ.ครบแล้ว รอชงเข้า ครม.เห็นชอบหลักการ 5 แนวทางแก้ปัญหาภาระงาน ความก้าวหน้า ก่อนลุยเดินหน้าต่อ ยันกรอบอัตรากำลังใหม่มีครบทุกสายงาน ไม่ใช่แค่ 13 สายงาน
เมื่อวันที่ 12 ก.ค. พญ.อัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานร่วมคณะทำงาน สธ.-ก.พ. เพื่อจัดทำรายละเอียดข้อเสนอแนวทางแก้ปัญหาภาระงาน ความก้าวหน้า และขวัญกำลังใจบุคลากร กล่าวถึงกรณีการจัดทำข้อมูลให้ ก.พ.เสนอ ครม.พิจารณาเรื่องดังกล่าว ว่า คณะทำงานได้ประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดย สำนักงาน ก.พ. มอบหมายให้ สธ.จัดทำข้อมูล รายละเอียด และส่งเอกสารต่างๆ ให้ทาง ก.พ. ซึ่ง สธ.ดำเนินการเรียบร้อยแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนการเสนอเข้า ครม.เมื่อไรอยู่ที่ ก.พ.เป็นผู้พิจารณา หากเรื่องเข้า ครม.แล้วเสร็จ คณะทำงานชุดนี้ก็จะหารือถึงการดำเนินการขับเคลื่อนต่อไป ระหว่างนี้จึงต้องรอเรื่องเข้า ครม.อย่างเดียว
“การเสนอ ครม.เพื่อขอความเห็นชอบ จะเป็นลักษณะการรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินการโดยมีมติต่างๆ เช่น กรอบอัตรากำลัง ความก้าวหน้า เป็นต้น ซึ่งหาก ครม.เห็นชอบหลักการ เราก็สามารถดำเนินการต่อไปได้” พญ.อัจฉรา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงผลการวิเคราะห์กรอบอัตรากำลังปี 69 สายวิชาชีพ ซึ่งมีการเผยแพร่ออกมาเพียง 13 สายงาน จริงๆ มีมากกว่านั้นหรือไม่ พญ.อัจฉรา กล่าวว่า สธ.มีบุคลากรที่ปฏิบัติงานหลากหลายสายงาน มีมากกว่า 13 สายงาน มีทั้งสายวิชาชีพ สายสนับสนุน แต่ที่มีการเผยแพร่ 13 สายงานเป็นตัวอย่างของลีดทีมการดำเนินการด้านสุขภาพ เป็นตัวอย่างนำร่อง แต่จริงๆ มีครบทุกวิชาชีพในการดำเนินงาน ไม่ต้องกังวล กรอบโครงสร้างอัตรากำลังอันใหม่มีครบทุกวิชาชีพ ทุกสายงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื้อหาที่คณะทำงานร่วม สธ.และ ก.พ.จะเสนอต่อที่ประชุม ครม. เป็นไปตามมติที่ประชุมเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. หลักๆ คือ 1.เห็นชอบที่จะมีการเพิ่มตำแหน่งข้าราชการแต่ละวิชาชีพให้ได้ตามกรอบขั้นสูงที่กำหนด ภายในปี 2569 เช่น แพทย์ปัจจุบันมี 24,649 คน เพิ่มเป็น 35,578 คน พยาบาลปัจจุบันมี 116,038 คน เพิ่มเป็น 175,923 คน เป็นต้น 2.การดูแลเรื่องความก้าวหน้าในวิชาชีพ 3.การจัดสรรบุคลากรให้เพียงพอ 4.การจัดสรรแพทย์เพิ่มพูนทักษะ (แพทย์ใช้ทุนปี 1) ให้เพียงพอกับภาระงาน และ5.ขยายการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท (CPIRD)