เห็นพ้องช่วยบุคลากรถ่ายโอน รพ.สต.ย้ายกลับ บนพื้นฐานระเบียบที่มี สธ.ชงดึงผู้ว่าฯ นั่งประธานคณะทำงาน

สธ.ชงดึงผู้ว่าฯ ประธานคณะทำงานสุขภาพพื้นที่ ปรับนายกฯ อบจ.รองประธาน หวังดูแลครอบคลุมทั้งจังหวัด กรณีถ่ายโอน รพ.สต. แจงที่ประชุมเห็นพ้องช่วยบุคลากรย้ายกลับ บนพื้นฐานระเบียบที่มี ย้ำถ่ายโอนรอบถัดไปต้องพร้อมจริงๆ

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ประธานคณะอนุกรรมการ MIU วิชาการและติดตามประเมินผลถ่ายโอนภารกิจ สอน./รพ.สต. ให้แก่ อบจ. ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุข ร่วมกับคณะอนุกรรมการประสานงานการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. ที่มีนายเลอพงศ์ ลิ้มรัตน์ เป็นประธานการประชุมเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา ว่า การประชุมเป็นไปด้วยดี กรรมการฯทุกท่านรับฟังและพร้อมหาทางออกร่วมกัน ซึ่ง สธ. เห็นด้วยกับการถ่ายโอนภารกิจ รพ.สต.ไปยัง อบจ. แต่สิ่งสำคัญ ขอให้มีการเตรียมความพร้อม รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ มีกลไกการมีส่วนร่วมให้มากที่สุด ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว มีทั้งพื้นที่ที่ทำได้ดีและพื้นที่ที่ต้องเข้าไปช่วยกันดูแล ก็ต้องมาร่วมกันทำงานหาทางออกให้ดีที่สุด

ทั้งนี้ สธ.ได้นำเสนอประเด็นปัญหาข้อห่วงใยต่างๆ และทางคณะอนุกรรมการฯ รับฟัง พร้อมทั้งให้ สธ.กลับมาทำข้อเสนอในทางบริหารจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น ร่วมกับทางภาคส่วนต่างๆ และเสนอต่อที่ประชุมอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการหารือแนวทางกรณีบุคลากร 423 คนที่ถ่ายโอนไปแล้วต้องการขอกลับมายัง สธ.ด้วยหรือไม่ นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า สธ.เสนอเป็นทางออกว่า ควรมีการช่วยเหลือให้กลับมาได้ แต่ต้องดูระเบียบในการบริหารอัตรากำลังเป็นสำคัญ ขณะนี้เรามองถึงความร่วมมือในการเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาในบางพื้นที่ เพราะต้องให้ความสำคัญประชาชน คนไข้ มากที่สุด โดยการทำงานแก้ไขปัญหาร่วมกันจะเป็นในรูปแบบคณะทำงานร่วมกัน แต่ทั้งหมดเราต้องอิงระเบียบ

“การประชุมเป็นไปด้วยดี เรายึดหลักหารือแบบ Constructive Feedback มองประชาชนเป็นตัวตั้ง มองการให้ข้อมูลแต่ละฝ่ายเป็นเรื่องที่จะนำมาพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ข้อห่วงใยหลักๆ กรณีที่จะถ่ายโอนรอบใหม่ต้องมาหารือเพื่อช่วยกันในการเตรียมความพร้อม ยกตัวอย่าง หน่วยงานไหนจะไปต้องเตรียมพร้อมให้เกิน 70% ขึ้นไป เช่น หาก รพ.สต.มีบุคลากร 10 คน ถ้าไป 2 คนอาจต้องหารือกัน ต้องให้พร้อมจริงๆ ก่อนจึงจะถ่ายโอน โดยเรามีคณะทำงานสุขภาพในพื้นที่ที่เป็นกลไกคอยช่วยประสานงาน พิจารณาการดำเนินการต่างๆ ก็จะสามารถพิจารณาช่วยเหลือได้” นพ.รุ่งเรือง กล่าว

นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า เรื่องกลไกการทำงานระดับพื้นที่ สธ.เสนอว่า ประธานคณะทำงานสุขภาพระดับพื้นที่ ควรเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากสามารถดูแลระดับจังหวัด ทั้งภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น เป็นไปได้หรือไม่จากเดิมประธานคณะทำงานสุขภาพฯ เป็นนายกฯอบจ. ขอปรับเป็นผู้ว่าฯ และมีนายกฯอบจ. และสาธารณสุขเป็นรองประธาน ซึ่งตรงนี้เป็นข้อเสนอของ สธ. ทั้งนี้ ประเด็นบุคลากรที่อยากกลับมา สธ. เราเข้าใจและเห็นใจ ซึ่งการประชุมฯ ต่างก็เข้าใจเรื่องนี้ พร้อมช่วยเหลือบนพื้นฐานของระเบียบที่ทำได้

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการหารือกรณีแนวทางการจ้างแพทย์หรือบุคลากรที่มีใบประกอบวิชาชีพมาปฏิบัติงานใน รพ.สต.ที่ถ่ายโอนไปหรือไม่ นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า ต้องอาศัยกลไกคณะกรรมการสุขภาพในพื้นที่เช่นเดียวกัน เพราะแต่ละพื้นที่บริบทไม่เหมือนกัน การออกแบบแนวทางก็จะแตกต่างกัน