xs
xsm
sm
md
lg

สธ.จ่อถก 11 ก.ค. สางปัญหาถ่ายโอน รพ.สต.รอบใหม่ ชงตัด 5 หน่วยห้ามถ่ายโอน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สธ.ห่วงถ่ายโอน รพ.สต.ล็อตใหม่ปีงบ 67 จ่อถก 11 ก.ค. นี้ ภึงปัญหาถ่ายโอนรอบก่อน ชงตัด 5 หน่วยบริการห้ามถ่ายโอน หลังพบปีก่อนมีหลุดไป เว้นสมัครใจโอนย้าย คือ ตัวไป แต่ตำแหน่งต้องอยู่

เมื่อวันที่ 7 ก.ค. นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีการถ่ายโอน รพ.สต.ไปยัง อบจ.ปีงบประมาณ 2567 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2566 ว่า สธ.ห่วงเรื่องความพร้อมของการถ่ายโอน เพราะจะมีประเด็นเรื่องการบริการ บุคลากร ฯลฯ ซึ่งการถ่ายโอนรอบก่อนหน้านี้ พบว่ามีบางส่วนไม่พร้อม โดยเฉพาะเรื่อง รพ.สต.ไม่สามารถจัดบริการดูแลประชาชนได้เหมือนเดิม เพราะเมื่อโอนย้ายแล้วไม่มีแพทย์ ทันตแพทย์ หรือบุคลากรที่มีใบประกอบวิชาชีพฯ ประชาชนจึงต้องเดินทางมารักษาที่ รพ.ชุมชนแทนที่จะสามารถรับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิได้เหมือนเดิม ตรงนี้ อบจ.ควรจัดหาแพทย์ ทันตแพทย์ บุคลากรให้พร้อม อย่าง จ.สุพรรณบุรี

"ช่วงแรก สธ.เคยทำหนังสือว่า ยินดีสนับสนุนการให้บริการประชาชน ระหว่าง อบจ.จะจัดสรรหาบุคลากรสายวิชาชีพมาประจำ แต่เมื่อเวลาล่วงเลย บางแห่งยังไม่มีแพทย์หรือทันตแพทย์ สธ.ไม่สามารถทิ้งประชาชนได้ เพราะจะกระทบต่อบริการ จึงยังให้การสนับสนุนการบริการเช่นเดิม" นพ.พงศ์เกษมกล่าว
ถามว่าแม้ สธ.จะให้การดูแลรักษา แต่ตามกฎหมาย เมื่อถ่ายโอนรพ.สต.แล้ว งบประมาณต่างๆ ของรัฐจะจัดส่งให้ อบจ. แล้ว สธ.ยังดำเนินการต่างๆ เหมือนเดิมหรือไม่ นพ.พงศ์เกษม กล่าวว่า สธ.ห่วงเรื่องนี้เช่นกัน จึงทำหนังสือไปยังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในการมอบหมายภารกิจไปทั้งหมดแล้ว แต่ยังต้องช่วยในด้านบริหารจัดการ เช่น ซื้อเวชภัณฑ์การแพทย์ หรือยา ยังทำได้หรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการตอบกลับจาก สตง. แต่กรณีที่เกิดขึ้น หากพร้อมจริงๆ ต้องรับไปทั้งหมดต้องเป็น รพ.สต.ที่เติบโตได้ด้วยตนเอง โดยมี อบจ.เป็นฐาน

“วันที่ 11 ก.ค.นี้จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการถ่ายโอนฯ ซึ่งจะมีการหารือและหาทางออกปัญหาต่างๆ ของการถ่ายโอนรอบที่ผ่านมา และเตรียมพร้อมการถ่ายโอนรอบใหม่ ต.ค.นี้ แต่ผมติดภารกิจ จึงได้มอบให้ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ประธานคณะอนุกรรมการ MIU วิชาการและติดตามประเมินผลถ่ายโอนภารกิจ สอน./รพ.สต. ให้แก่ อบจ. ไปประชุม” รองปลัด สธ.กล่าว

เมื่อถามว่า แวดวงสาธารณสุขมีการส่งต่อข้อมูลว่า บุคลากรที่ถ่ายโอนไปต้องการกลับมา สธ.ประมาณ 423 คน นพ.พงศ์เกษม กล่าวว่า มีข้อมูลเข้ามาเช่นกัน แต่ตัวเลขกำลังรวบรวมข้อมูล ประเด็นคือ คนที่ขอถ่ายโอนไปปีที่ผ่านมาเมื่อจะขอกลับคืน ก็ต้องดูระเบียบด้วยว่า จะมีช่องทางไหนดำเนินการช่วยเหลือได้

ถามอีกว่าการถ่ายโอน รพ.สต.รอบใหม่ จะมีการเตรียมพร้อมอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ นพ.พงศ์เกษม กล่าวว่า ปีที่แล้วยังมีประเด็นว่า คนที่ไม่ใช่ภารกิจ รพ.สต.มีการถ่ายโอนไปด้วย เช่น บางคนอยู่ในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) ซึ่งภารกิจเป็นหน่วยงานควบคุมหรือกำกับดูแล (Regulator) หรืออยู่ใน รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป หรือ รพ.ชุมชน ซึ่งเป็นระบบบริการที่อยู่เหนือบริการปฐมภูมิ จนส่งผลกระทบต่อระบบบริการสาธารณสุข ดังนั้น ครั้งนี้จะมีการปรับเงื่อนไขให้เหมาะสม ให้ตรงภารกิจจริงๆ

“ที่ผ่านมาได้รับมอบจากปลัด สธ. ไปร่วมประชุมคณะอนุกรรมการกระจายอำนาจฯ และเสนอให้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขให้ตัด 5 หน่วยบริการ คือ สสจ. สสอ. รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป และ รพ.ชุมชน เพื่อให้ตรงกับภารกิจของหน่วยบริการปฐมภูมิ ที่ทำเรื่องส่งเสริมป้องกันโรค ดูแลให้บริการที่ไม่ต้องอาศัยใบประกอบโรคศิลป์ กลุ่มนี้จะไม่อยู่ในภารกิจถ่ายโอนไป ยกเว้นบุคลากรสมัครใจไปด้วยตัวเอง มอบ นพ.สสจ.พิจารณาเป็นรายๆ โดยต้องไม่ส่งผลกระทบต่อระบบบริการ และให้เป็นแบบโอนย้าย คือ ตัวไปได้ แต่ตำแหน่ง อัตรากำลังยังอยู่ ทำให้เรารับคนใหม่ หรือคนรอขึ้นตามลำดับได้” รองปลัดสธ.กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น