สพฉ.แจงจ่ายเงินชดเชยหน่วยกู้ชีพแล้ว 32 ล้านบาท ของรอบเดือน มี.ค.-เม.ย. ส่วนค้างจ่ายรอบ ต.ค. 65 - ก.พ. 66 รวม 969 ล้านบาท จะเริ่มจ่ายเดือนหน้า มั่นใจเคลียร์จบในสิ้น ก.ย.
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ว่าที่ร.ต.การันต์ ศรีวัฒนบูรพา ผู้ช่วยโฆษกสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจ่ายเงินชดเชยให้หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉิน หลังมีการค้างจ่าย 8 เดือน จากปัญหาการปรับระบบบันทึกข้อมูล โดยจะเริ่มจ่ายช่วง ก.ค.นี้ ว่า ปกติ สพฉ. จะมีการจ่ายค่าชดเชยให้แก่หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉิน เดือนละ 2 รอบ ซึ่งจะเป็นการจ่ายค่าปฏิบัติการตามหลังเดือนก่อนหน้า ส่วนกรณีที่มีการค้างจ่าย 8 เดือน เมื่อวันที่ 5 ก.ค. สพฉ. ได้โอนเงินค่าชดเชยจากกองทุนการแพทย์ฉุกเฉิน ให้แก่หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉิน รวมทั้งสิ้น 32,586,290 บาท เป็นเงินชดเชยในรอบการจ่ายครั้งที่ 1 และ 2 ของ เม.ย.2566 และครั้งที่ 1 ของ พ.ค.2566 รวม 3 งวด ซึ่งเป็นการค่าชดเชยการปฏิบัติของ มี.ค. - เม.ย. 2566
อย่างไรก็ตาม เงินค่าชดเชยที่เป็นปัญหาอยู่ เกิดจากการเปลี่ยนระบบการคีย์ข้อมูลที่เดิมใช้มานานกว่า 15 ปี ฐานข้อมูลเยอะมาก ทำให้ระบบล่มไป สพฉ.ร่วมกับ บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) พัฒนาระบบการเบิกจ่ายใหม่ ซึ่งเริ่มใช้เมื่อช่วง มี.ค.2566 ฉะนั้น เงินค่าชดเชยที่ยังเป็นปัญหาอยู่ คือ รอบการจ่ายตั้งแต่ต.ค.2565 - ก.พ.2566 ซึ่งยังอยู่ในปีงบประมาณเดียวกัน แต่ด้วยมีการเปลี่ยนระบบใหม่จึงทำให้เกิดรอยต่อในการเบิกจ่าย เพราะข้อมูลยังอยู่ในฐานข้อมูลเดิม ที่เป็นระบบออฟไลน์หรือกระดาษ ซึ่งจะต้องนำข้อมูลส่วนนี้เข้ามาในระบบใหม่ จึงต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้ข้อมูลซ้ำซ้อน
“การค้างจ่ายช่วง ต.ค. 2565 - ก.พ. 2566 คาดว่าจะเริ่มจ่ายได้ใน ส.ค.66 ฉะนั้น ส.ค.-ก.ย.นี้ จะมีการจ่ายเงิน 2 ส่วน คือเงินของเคสปัจจุบันและเงินที่ค้างเมื่อปลายปีถึงต้นปี ยืนยันว่าเมื่อสิ้นปีงบประมาณ 2566 คือ ก.ย. นี้ จะสามารถจ่ายเงินค่าชดเชยปัจจุบันและที่ค้างอยู่ยอดรวมประมาณ 969 ล้านบาทได้หมด” ว่าที่ร.ต.การันต์ กล่าว
เมื่อถามถึงบรรยากาศภายหลังจากมีการโอนค่าชดเชย ว่าที่ร.ต.การันต์ กล่าวว่า เป็นไปในทางที่ดี เพราะจากที่ สพฉ. ชี้แจง ทำให้พี่น้องกู้ชีพกู้ภัยเห็นความชัดเจน เพราะที่ผ่านมาก็มีการตั้งคำถามว่า มีงบประมาณหรือไม่ หรือเอาเงินไปใช้อย่างอื่น ซึ่งความจริงแล้วเงินยังอยู่ เพียงแต่จะต้องมีการทำให้ถูกต้องตามกระบวนการกฎหมาย ทั้งนี้ สพฉ. ขอขอบคุณหน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินทั่วประเทศ ที่คงยืนหยัดปฎิบัติหน้าที่และอยู่เคียงข้างประชาชนผู้เจ็บป่วยฉุกเฉิน แม้ในช่วงเวลายากลำบาก
เมื่อถามว่าระบบการเบิกจ่ายใหม่มีความปลอดภัยกว่าระบบเดิมหรือไม่ ว่าที่ร.ต.การันต์ กล่าวว่า NT ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเช่นเดียวกับ สพฉ. ดังนั้นจะมีความปลอดภัยของระบบ นอกจากนั้นยังมีประโยชน์ในการเชื่อมโยงสถิติข้อมูลต่างๆ เช่น สถิติการบาดเจ็บของผู้ป่วยในการออกปฏิบัติการ หน่วยงานภาครัฐอื่นก็สามารถเข้าถึงข้อมูลและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้