สพฉ.แจงปัญหาจ่ายค่าชดเชยอาสาสมัครหน่วยกู้ชีพล่าช้า เหตุปลายปี 65 ปรับระบบบันทึกจ่ายชดเชย ยันเริ่มจ่ายได้ ก.ค.นี้เป็นต้นไป มั่นใจไม่กระทบต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน
เมื่อวันที่ 3 ก.ค. นาวาเอก (พิเศษ) พิสิทธิ์ เจริญยิ่ง รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึงกรณีการร้องเรียนของอาสาสมัครหน่วยกู้ชีพ เกี่ยวกับการจ่ายค่าชดเชยการปฏิบัติการล่าช้า ของ สพฉ. ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติการของหน่วยกู้ชีพทั่วประเทศ ว่า ในปัจจุบันทั้งประเทศมีหน่วยปฏิบัติการอำนวยการ หรือศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669 จำนวน 82 หน่วย และหน่วยปฏิบัติการแพทย์ (หน่วยกู้ชีพ) จำนวน 7,838 หน่วย ประกอบด้วย สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 4,892 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 60 , สังกัดสถานพยาบาลของรัฐ 1,579 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 20 และสังกัดองค์กรไม่แสวงหากำไร 1,174 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 15
ทั้งนี้ ในปี 2566 สพฉ. ได้รับงบประมาณจากกองทุนการแพทย์ฉุกเฉินจำนวนกว่า 1,050 ล้านบาท เพื่อใช้ในการจ่ายค่าชดเชยการออกปฏิบัติการ โดยระบบการจ่ายค่าชดเชยการออกปฏิบัติการของ สพฉ. จะใช้ระบบโปรแกรมสารสนเทศที่เรียกว่า ITEMS ซึ่งจะเป็นการบันทึกข้อมูลวันเวลาการออกปฏิบัติการ ข้อมูลผู้ป่วย ข้อมูลหน่วยปฏิบัติการ โดยหน่วยปฏิบัติการแพทย์ หน่วยปฏิบัติการอำนวยการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และ สพฉ. จะเห็นข้อมูลนี้ตรงกันในระบบ และสรุปข้อมูลการออกปฏิบัติการในแต่ละเดือนเพื่อทำการเบิกจ่ายค่าชดเชย จากกองทุนการแพทย์ฉุกเฉิน
"ช่วงปลายปี 2565 เกิดปัญหาของระบบในการบันทึกข้อมูล ซึ่งระบบ ITEMS เดิมที่ สพฉ. ใช้งานมาเป็นเวลากว่า 15 ปี ส่งผลต่อการเบิกจ่ายค่าชดเชยการปฏิบัติการ สพฉ.จึงได้เร่งดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาระบบโปรแกรมรูปแบบใหม่ โดยเรียกว่าระบบ ITEMS 4.0 มาตั้งแต่ ธ.ค.2565 และเริ่มดำเนินการใช้งาน ตั้งแต่ช่วง มี.ค.2566 ตั้งแต่เริ่มปรับปรุงระบบ สพฉ.ได้ประชาสัมพันธ์ให้หน่วยปฏิบัติการ และ สสจ. ทราบถึงปัญหาและการดำเนินงานมาโดยตลอด" นาวาเอก (พิเศษ) พิสิทธิ์กล่าว
นาวาเอก (พิเศษ) พิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อบางหน่วย จนมีการพิจารณาพักการออกปฏิบัติการเป็นการชั่วคราว ซึ่งที่ทราบข้อมูลมีเป็นจำนวนน้อย โดยปัจจุบันหน่วยปฏิบัติการทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ยังดำเนินการออกปฏิบัติการให้บริการประชาชนผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินอยู่ตลอด สพฉ. ยืนยันว่า มีงบประมาณที่เพียงพอและมีความพร้อมที่จะจ่ายค่าชดเชยในปี 2565-2566 ได้ในทันทีตามระเบียบแนวทางที่กำหนดไว้แล้ว โดยการจ่ายต้องเป็นไปตามระเบียบ ขั้นตอนของกฎหมายและต้องมีความถูกต้อง ครบถ้วนของข้อมูล ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากหน่วยปฏิบัติการและ สสจ. ในการปรับปรุงและยืนยันข้อมูลในระบบ ตั้งแต่ มี.ค.2566 เป็นต้นมา เพื่อให้เกิดความถูกต้อง ครบถ้วน และไม่ซ้ำซ้อน ซึ่งจะทำให้สามารถเริ่มทยอยจ่ายค่าชดเชยให้แก่หน่วยปฏิบัติการทั่วประเทศได้ตั้งแต่ต้น ก.ค.นี้ เป็นต้นไป ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินอย่างแน่นอน