xs
xsm
sm
md
lg

จี้ "สปา-ซาวน่า" ช่วยย้ำสังเกตตุ่มหนอง หลัง มิ.ย.เดือนเดียวป่วย "ฝีดาษลิง" พุ่ง 2.3 เท่า เป็นกลุ่มชายรักชาย เกือบครึ่งติดเอชไอวีร่วม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สรุป 1 ปี ไทยเจอผู้ป่วยฝีดาษลิงรวม 91 ราย พบ มิ.ย. เดือนเดียว เจอถึง 48 ราย เพิ่มขึ้น 2.3 เท่าจาก พ.ค.ที่เจอ 21 ราย เผยทั้ง 48 ราย เป็นกลุ่มชายมีเพศสมัพันธ์กับชาย เกือบครึ่งมีประวัติติดเอชไอวีร่วมด้วย ขอสปา ซาวน่า ช่วยสื่อสารลูกค้าสังเกตตุ่มหนอง

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีพบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรเพิ่มขึ้น ว่า ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษวานรรายแรกเมื่อ ก.ค. 2565 ปัจจุบันไทยมีรายงานผู้ป่วยรวม 91 ราย และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยใน มิ.ย. 2566 เพียงเดือนเดียว มีรายงานพบผู้ป่วยเพิ่ม 48 ราย มากกว่า 2.3 เท่า ของ พ.ค.ที่มี 21 ราย เป็นคนไทย 41 ราย ชาวต่างชาติ 7 ราย ส่วนใหญ่พักอาศัยในพื้นที่ กทม. 38 ราย สมุทรปราการ 3 ราย ชลบุรี นนทบุรี จังหวัดละ 2 ราย และสมุทรสาคร ภูเก็ต ปทุมธานี จังหวัดละ 1 ราย โดยทั้ง 48 ราย เป็นกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย และมีประวัติติดเชื้อเอชไอวีร่วมด้วย 22 ราย คิดเป็นร้อยละ 45.8 ส่วนใหญ่มีปัจจัยเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก ยังไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต


"สังเกตว่าเดือนที่ผ่านมาผู้ป่วยฝีดาษวานรรายใหม่เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีมากเกือบครึ่งหนึ่ง โรคนี้สามารถป้องกันได้โดยเลี่ยงไม่สัมผัสแนบชิดกับผู้ป่วย หรือผู้ที่สงสัยติดเชื้อฝีดาษวานร รวมทั้งงดมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก หลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ที่มีผื่น ตุ่มหรือหนอง หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด รวมทั้งแนะนำให้ล้างมือบ่อยๆ และไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เป็นต้น" นพ.ธเรศกล่าว

นพ.ธเรศกล่าวว่า สามารถตรวจสอบอาการเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง หากมีผื่น/ตุ่มขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก ปาก หรือตามร่างกาย และมีประวัติสัมผัสใกล้ชิด สัมผัสแนบชิด หรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้สงสัยหรือผู้ป่วยฝีดาษวานร ให้สังเกตภายหลังสัมผัสผู้ป่วยภายใน 21 วัน หากมีอาการ ไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือ ปวดหลัง ต่อมน้ำเหลืองโต เช่น บริเวณหลังหู คอ ขาหนีบ เจ็บคอ คัดจมูก หรือ ไอ มีผื่น หรือ ตุ่มน้ำหรือ ตุ่มหนองขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ หรือ ทวารหนัก หรือ บริเวณรอบๆ ตามมือ เท้า หน้าอก ใบหน้า หรือบริเวณปาก ให้รีบเข้ารับการตรวจที่ รพ. แจ้งอาการและประวัติเสี่ยง


นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคฝีดาษวานรระบาดเพิ่มขึ้นรวดเร็วในเวลาเดือนเดียว สะท้อนถึงพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดการแพร่เชื้อในเพศชายวัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะกลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย กรมควบคุมโรคจึงขอความร่วมมือเครือข่ายที่ทำงานใกล้ชิดกับประชาชน เช่น รพ.และคลินิกเอกชน องค์กรภาคประชาสังคม สถานประกอบการสุขภาพ ประเภทสปา ซาวน่า ให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ และคำแนะนำในการสังเกตอาการโรคฝีดาษวานร เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง ป้องกันโรคแก่กลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยง เน้นย้ำว่า “โรคฝีดาษวานรสามารถป้องกันได้โดยงดการสัมผัสแนบชิดกับผิวหนังผู้ป่วยและไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน นอกจากการสวมถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ให้สังเกตตุ่มหนองในบริเวณที่มีโอกาสสัมผัสแนบเนื้อ เพื่อป้องกันความเสี่ยงรับเชื้อจากการสัมผัส” สำหรับคลินิกรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี ขอให้เพิ่มการสื่อสารมาตรการป้องกันโรคฝีดาษวานรอย่างสม่ำเสมอควบคู่กับเรื่องการดูแลสุขภาพอื่นๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น