ปลัด สธ.นำทีมหารือทวิภาคีสาธารณสุขไทย-ออสเตรเลีย ทั้งด้านพัฒนานักบริหาร การบริหารจัดการโควิด การใช้ Digital Health แก้ปัญหาขาดแคลนแพทย์ในระบบสุขภาพปฐมภูมิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ เผยออสเตรเลียไม่ให้ซื้อขาย "บุหรี่ไฟฟ้า" พร้อมชมไทยที่ห้ามนำเข้าและห้ามใช้
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ตนได้นำคณะผู้บริหาร สธ.ประชุมหารือทวิภาคีความร่วมมือสาธารณสุขไทย-ออสเตรเลีย ที่ Department of Health and Aged Care กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยแลกเปลี่ยนประเด็นด้านสาธารณสุขและความร่วมมือต่างๆ ที่ผ่านมา อาทิ การพัฒนานักบริหาร สธ. ซึ่งได้นำคณะนักบริหารระดับสูงมาศึกษาดูงานที่ออสเตรเลีย เนื่องจากมีระบบสุขภาพที่น่าสนใจ สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้, การบริหารจัดการโควิด 19 ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 2 ประเทศมีการทำงานอย่างเข้มแข็ง และออสเตรเลียมีอัตราการเข้าถึงวัคซีนค่อนข้างสูง ขณะที่ไทยสามารถบริหารจัดการให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนโควิค 19 ในระดับปฐมภูมิได้ดี จากการที่มี อสม. ช่วยสนับสนุนการให้บริการในพื้นที่ ทำให้ออสเตรเลียมีความสนใจและขอแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับการคัดเลือก การอบรม และคุณสมบัติของ อสม.
นอกจากนี้ ยังหารือเรื่อง Digital Health ซึ่งออสเตรเลียมีการนำ Digital health มาช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแพทย์ในระบบสุขภาพปฐมภูมิ และใช้ Telehealth ในช่วงโควิด 19 ระบาด ซึ่งมีแนวโน้มการใช้เพิ่มขึ้น รวมถึงมีระบบ Personal Health Record ในการเก็บข้อมูลประชากร ขณะที่ไทยมีการพัฒนาเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการศึกษาดูงานที่นครซิดนีย์ เกี่ยวกับ Hospital in the home (HiTH) ซึ่งเป็นประโยชน์มากและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ ขณะที่ด้าน Therapeutic Goods Administration (TGA) ออสเตรเลียได้ร่วมมือกับหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย ให้ความช่วยเหลือและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และสุขภาพ โดยไทยมีความสนใจที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ช่วยฟัง ซึ่งเป็นปัญหาที่พบมากขึ้นในเด็กประมาณ 200 คนต่อปี
"ส่วนมาตรการการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า ออสเตรเลียไม่ให้มีการซื้อขายโดยเด็ดขาด ยกเว้นผู้ที่กำลังพยายามเลิกบุหรี่ และเฝ้าระวังไม่ให้แปรรูปนิโคตินในรูปแบบหมากฝรั่ง ซึ่งออสเตรเลียได้ชื่นชมประเทศไทยที่ไม่ให้มีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเลย แม้จะมีการลักลอบนำบุหรี่ไฟฟ้าเข้าประเทศ แต่ก็ยังสามารถควบคุมอัตราการสูบบุหรี่ได้ดี" นพ.โอภาสกล่าว