ปลัด สธ. เผย สถานการณ์ "โควิด" ในไทยลดลง ทั้งผู้ป่วย ผู้เสียชีวิต และการระบาดเป็นกลุ่มก้อน แต่ห่วงกลุ่มดับยังเป็นสูงอายุ 70 ปี ไม่ได้วัคซีน ย้ำลูกหลานพาไปฉีดแบบประจำปี
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ทั่วโลกรอบเดือนที่ผ่านมา มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับประเทศไทย โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตลดลง รวมทั้งพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนลดลงด้วย แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้เสียชีวิตเกือบทั้งหมดเป็นกลุ่ม 608 โดยเฉพาะผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป และยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 จึงขอให้ประชาชนยังคงมาตรการป้องกันตนเองเมื่อเข้าไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือมีกิจกรรมเสี่ยง เพราะอาจมีโอกาสได้รับเชื้อไม่รู้ตัวและนำไปแพร่ให้คนในบ้านได้ รวมทั้งสวมหน้ากากทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง และเด็กเล็ก
"ขอให้บุตรหลานนำสมาชิกในครอบครัวที่เป็นกลุ่ม 608 ไปฉีดวัคซีนโควิด 19 ประจำปี พร้อมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ รวมถึงนำทั้งเด็กเล็กอายุ 6 เดือน – 5 ปี ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนโควิด 19 ไปฉีดวัคซีนเพื่อลดการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต" นพ.โอภาสกล่าว
นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับสายพันธุ์โควิด 19 ในไทย พบว่าส่วนใหญ่ยังคงเป็นสายพันธุ์โอมิครอนลูกผสม ซึ่งความสามารถในการแพร่ระบาดและความรุนแรงไม่ได้เพิ่มขึ้น และยังสามารถตรวจหาเชื้อด้วย ATK และ RT-PCR ได้ ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะติดตามเก็บตัวอย่างจากผู้ป่วยโควิด 19 ทั่วประเทศ ทั้งในชาวไทยและต่างชาติ เพื่อเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อย่างต่อเนื่องต่อไป ส่วนยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ ยังมีเพียงพอกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ได้สั่งการให้กรมควบคุมโรคประเมินสถานการณ์ทางระบาดวิทยาในระยะต่อไป เพื่อเตรียมการสำรองยาและเวชภัณฑ์ให้เหมาะสมต่อไป