xs
xsm
sm
md
lg

เปิดจุดฉีดวัคซีน "ไข้หวัดใหญ่" ฟรีผ่าน 2 งานมหกรรมสุขภาพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สปสช.เปิดฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ผ่าน 2 มหกรรมสุขภาพ ทั้งงานสมุนไพรแห่งชาติ และมติชน เฮลท์แคร์ จองคิวฉีดผ่านกระเป๋าสุขภาพในแอปฯ เป๋าตัง ภาพรวมทั่วประเทศฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้วเกือบ 1 ล้านโดส
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝน เป็นช่วงเวลาการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ แม้คนทั่วไปเมื่อได้รับเชื้อจะมีอาการไม่มากและหายเองได้ แต่กลุ่มเสี่ยงต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพื่อลดความรุนแรงและลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้หลังรับเชื้อ ซึ่ง สปสช.ร่วมกับกรมควบคุมโรคจัดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ให้คนไทย 7 กลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิการรักษาพยาบาล เข้ารับได้ที่หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพฯ ทั่วประเทศ และเพื่อเพิ่มความสะดวก สปสช.ร่วมกับหน่วยบริการออกหน่วยบริการฉีดวัคซีน (ศูนย์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่) ให้กับประชาชนในงานมหกรรมสุขภาพ 2 งาน ซึ่งเปิดให้ประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงทั่วไปเข้ารับวัคซีน คือ

1.งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 20 “สมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจไทย” ณ ฮอลล์ 11–12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย. – 2 ก.ค. 2566 เวลา 10.00 – 16.00 น. โดย สปสช.ร่วมกับธนาคารกรุงไทย และเกียรติการแพทย์คลินิกเวชกรรมมาให้บริการ จำนวน 600 โดส ที่บูธธนาคารกรุงไทย

และ 2.งานมหกรรมสุขภาพ มติชน Thailand Healthcare 2023 “เกษียณสโมสร” ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ระหว่างวันที่ 29 มิ.ย. – 2 ก.ค. 2566 เวลา 10.00 – 16.00 น. โดยได้รับความมือจาก รพ.ศิริราชมาให้บริการ 600 โดส

"ประชาชนที่มางานมหกรรมสุขภาพทั้ง 2 งาน สามารถจองคิวฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ผ่านกระเป๋าสุขภาพบนแอปฯ เป๋าตัง เลือกศูนย์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ต้องการ เช่น ศูนย์ฉีดวัคซีน มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และศูนย์ฉีดวัคซีน เฮลท์แคร์ 2023 : เกษียณสโมสร ส่วนผู้ที้ไม่สะดวกก็ไปรับวัคซีนที่หน่วยบริการได้ตามปกติ จนถึงวันที่ 31 ส.ค. 2566 หรือจนกว่าวัคซีนจะหมดลง" ทพ.อรรถพรกล่าว

สำหรับภาพรวมการให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. – 20 มิ.ย. 2566 มีประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงเข้ารับบริการฉีดวัคซีนแล้ว 977,659 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง รองลงมาเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ กลุ่มผู้ที่มีภาวะโรคอ้วน และ กลุ่มผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย โดย 5 อันดับแรกของ รพ.ที่ให้บริการมากที่สุด คือ รพ.สุรินทร์ 10,036 ราย รพ.สมุทรปราการ 9,942 ราย รพ.สามพราน 9,053 ราย รพ.อุดรธานี 8,457 ราย และ รพ.ธัญบุรี 8,301 ราย


กำลังโหลดความคิดเห็น