บอร์ด สปสช. เห็นชอบยา 3 ตัว วัคซีน 1 ตัว เป็นสิทธิประโยชน์ใหม่ "บัตรทอง" ทั้งยารักษาภาวะเลือดออกผู้ป่วยฮีโมฟีเลีย ยารักษาภาวะแอมโมเนียในเลืดสูงในผู้ป่วย 3 โรคหายาก ยาเพิ่มโกรทฮอร์โมน และวัคซีนป้องกันโรคไอกรนชนิดไร้เซลล์ ให้หญิงตั้งครรภ์ สร้างภูมิคุ้มกันเด็กแรกเกิด อนุมัติจัดซื้อวัคซีนวงเงินกว่า 41 ล้านบาท ดูแล 1.1 แสนคน
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า การประชุมบอร์ด สปสช.เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2566 พิจารณาเห็นชอบตามข้อเสนอรายการยาที่ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ 3 รายการ และวัคซีน 1 รายการ เพื่อให้เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพฯ ดังนี้ 1. ยาโปรทรอมบินคอมเพล็กซ์เข้มข้น (aPCC) สำหรับรักษาภาวะเลือดออกในผู้ป่วยฮีโมฟีเลียที่มีสารต้านแฟคเตอร์สูง
2. ยาคาร์กลูมิคแอซิด สำหรับรักษาภาวะแอมโมเนียในเลือดสูงในผู้ป่วยโรคหายาก 3 โรค ได้แก่ ภาวะพร่องเอนไซม์ N-acetylglutamate synthase หรือ NAGS deficiencyโรคกรดเมทิลมาโลนิกคั่งในเลือด และ โรคกรดโพรพิโอนิกคั่งในเลือด 3. ยาโซมาโทรปิน สำหรับผู้ป่วยขาดโกรทฮอร์โมน อายุ 0-2 ปี ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
และ 4.วัคซีนป้องกันโรคไอกรนชนิดไร้เซลล์ สำหรับหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 27-36 สัปดาห์ ที่วิจัยและพัฒนาในประเทศ อยู่ในบัญชีนวัตกรรมไทย โดยบอร์ดยังเห็นชอบการปรับแผนและวงเงินการจัดหายาฯ ปีงบประมาณ 2566 เพื่อจัดซื้อวัคซีนดังกล่าว 1.1 แสนโดส วงเงินไม่เกิน 41,397,849 บาท โดยให้จัดซื้อจากรายการในบัญชีนวัตกรรมไทยทั้งหมด ตามนโยบายสนับสนุนบัญชีนวัตกรรมในประเทศ โดยวัคซีนนี้เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันโรคไอกรนให้กับทารกที่ยังไม่สามารถฉีดวัคซีนโดยตรงได้ ลดอัตราการป่วยหรือนอน รพ.จากโรคไอกรน
"ยาและวัคซีนดังกล่าวผ่านการพิจารณาด้านประสิทธิผล ความคุ้มค่า และความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญในคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชีวัคซีนหลักแห่งชาติแล้ว อยู่ระหว่างเสนอรองนายกรัฐมนตรีเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ซึ่งการบรรจุยาและวัคซีนนี้เป็นสิทธิประโยชน์ใหม่ จะช่วยให้ผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง ได้รับการดูแลและรักษาที่ดีขึ้นจากยาใหม่ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้แพทย์มียาที่ให้บริการเพิ่มขึ้น" นพ.จเด็จกล่าว